ธุรกิจเพื่อผู้สูงอายุ ธุรกิจเพื่อผู้สูงอายุ ในปี พ.ศ.2568 กระทรวงสาธารณสุขคาดการณ์ว่าประเทศไทยจะมีผู้สูงอายุ (อายุ 60 ปีขึ้นไป) ถึง 14.4 ล้านคน หรือเพิ่มขึ้นเกินร้อยละ 20 ของประชากรทั้งหมด นั่นหมายความว่า สังคมไทยจะเป็นสังคมผู้สูงอายุเต็มตัว ด้วยวิถีชีวิตและวัฒนธรรมที่เปลี่ยนไป เช่น จากเดิมที่อยู่รวมเป็นครอบครัวใหญ่ก็แยกไปสร้างครอบครัวของตัวเอง, หลายๆคนไม่อยากแต่งงานหรือแต่งงานแล้วไม่คิดจะมีลูก, ตัวผู้สูงอายุเองก็มีทางเลือกมากขึ้นในการใช้ชีวิตจากข้อมูลข่าวสารที่เข้าถึงได้ง่ายขึ้น ฯลฯ รวมกับข้อเท็จจริงที่ว่าสัดส่วนของผู้สูงอายุเพิ่มมากขึ้นเรื่อยๆทุกปี ทำให้เกิดความต้องการใหม่ๆขึ้นมา ธุรกิจเพื่อผู้สูงอายุจึงเป็นธุรกิจที่น่าจับตาและท้าทายไอเดียใหม่ๆที่จะตอบโจทย์ผู้สูงอายุในสังคมสมัยใหม่ จีน เป็นประเทศหนึ่งที่เข้าสู่สังคมผู้สูงอายุมานานแล้ว ด้วยนโยบายลูกคนเดียวตั้งแต่ปี 1980 ทำให้สัดส่วนผู้สูงอายุในปัจจุบันสูงกว่า 20% เพราะฉะนั้น จึงน่าสนใจว่า ธุรกิจเพื่อผู้สูงอายุในจีนนั้นเค้าทำอะไรกันบ้าง จากการสำรวจพบว่า ผู้สูงอายุในจีนจะใช้จ่ายในเรื่องสุขภาพและความบันเทิงเป็นหลัก สินค้าสุขภาพก็จะเกี่ยวข้องกับการออกกำลังกายและอาหารรวมไปถึงยาบำรุง ครีมบำรุง ส่วนสินค้าเพื่อความบันเทิงก็จะเกี่ยวข้องกับพวกงานอดิเรกเช่น ถ่ายรูป หมากรุก ดนตรี ปลูกต้นไม้ ฯลฯ หรือ พวกแพ็กเกจท่องเที่ยวต่างๆ สำหรับผู้สูงอายุแล้ว หากเป็นผลิตภัณฑ์ คุณสมบัติที่สำคัญคือ แพ็กเกจต้องเรียบง่าย เข้าใจง่ายไม่ซับซ้อน ใช้งานง่าย และดูปลอดภัยน่าเชื่อถือ หากเป็นบริการก็ต้องคำนึงถึงเรื่องสุขภาพ ความปลอดภัย รวมไปถึงความอดทนในการให้บริการ อย่างไรก็ตาม ผมมองว่า ถึงแม้สัดส่วนผู้สูงอายุจะมากแต่วิถีชีวิตของคนจีนในปัจจุบันยังไม่เปลี่ยนไปมากนักคือ ผู้สูงอายุมักจะยังอยู่รวมกับลูกหลาน ซึ่งรูปแบบนี้ก็กำลังปรับเปลี่ยนไปเช่นเดียวกับบ้านเรา เมื่อถึงจุดหนึ่งที่ลูกหลานแยกไปอยู่เอง ผู้สูงอายุก็จะอยู่กับคู่ตัวเองหรืออยู่กันเป็นสังคมผู้สูงอายุแบบสังคมตะวันตก ซึ่งจะทำให้ความต้องการด้านที่อยู่อาศัยสำหรับผู้สูงอายุจะเพิ่มขึ้นอีกมาก ที่อยู่อาศัยสำหรับผู้สูงอายุย่อมต้องมีเงื่อนไขมากกว่าที่อยู่ธรรมดา เช่น ต้องมีหมอ พยาบาล คอยดูแล มีอุปกรณ์อำนวยความสะดวก มีสังคมมีเพื่อนบ้านวัยเดียวกันที่สามารถทำกิจกรรมร่วมกันได้ ฯลฯ สิ่งเหล่านี้ผมคิดว่า น่าจะเป็นดีมานด์ใหม่ๆ ที่จะเป็นโจทย์ให้ผู้ประกอบการด้านอสังหาฯได้เป็นอย่างดี ที่เนเธอร์แลนด์มีตัวอย่างที่น่าสนใจครับ ไม่ใช่แค่ที่พักอาศัยสำหรับผู้สูงอายุธรรมดา แต่เป็นผู้สูงอายุที่เป็นอัลไซเมอร์หรือมีอาการสมองเสื่อมด้วย สถานที่แห่งนี้ชื่อ ฮ็อกวีย์ เรียกได้ว่าเป็นหมู่บ้านที่ออกแบบมาเป็นพิเศษ โดยจะเหมือนเมืองจำลองแห่งหนึ่ง มีร้านค้า มีร้านอาหาร โรงละคร แต่คนที่ดูเหมือนพนักงานในร้านต่างๆนี้แท้จริงแล้วคือ หมอ พยาบาล หรือทีมงานที่คอยดูแลผู้สูงอายุนั่นเอง คล้ายๆกับในหนังเรื่อง The Truman Show ทั้งนี้เพื่อให้ผู้ป่วยผู้สูงอายุเหล่านี้รู้สึกผ่อนคลายและมีความสุขที่สุด แน่นอนครับว่า การเนรมิตเมืองแบบนี้ย่อมใช้เงินทุนมหาศาล และค่าใช้จ่ายรายเดือนต่อคน ก็น่าตกใจเช่นกัน โดยอยู่ที่ 5,000 ยูโร/เดือน คิดเป็นเงินไทยก็ราวๆสองแสนบาทเท่านั้นเอง ผมอดคิดเล่นๆไม่ได้ว่า แล้วถ้าอยู่ๆไปไม่ตายซะทีแล้วเงินก็หมดขึ้นมา เค้าจะทำยังไง จะไล่ออกจากเมืองไปเลยก็ดูจะโหดร้ายไปหน่อย แต่ก็นี่แหละครับ เป็นตัวอย่างหนึ่งจากธุรกิจเพื่อผู้สูงอายุ ซึ่งในอนาคตอันใกล้นี้ผมเชื่อว่า คงมีธุรกิจใหม่ๆให้เห็นแน่ในเมืองไทย
ดร.อภิชาติ ชยานุภัทร์กุล บจก.พแอนด์เอสสเตนเลสสตีล เซ็นเตอร์ ตีพิมพ์ในวารสารเพื่อนสเตนเลสปีที่10 ฉบับที่10/พฤศจิกายน 2558 |