รถยนต์จากบริษัท IT

ในบรรดาอุตสาหกรรมต่างๆที่มีอยู่บนโลกนี้ อุตสาหกรรมรถยนต์เป็นอุตสาหกรรมหนึ่งที่ผู้เล่นหน้าใหม่จะสอดแทรกเข้าไปได้ยากมาก เพราะต้องใช้เงินลงทุนในการวิจัยและพัฒนาสูงมากกว่าจะผลิตรถได้หนึ่งคัน และกว่าจะขายได้จำนวนมากพอที่จะคุ้มค่าวิจัยพัฒนาก็ต้องใช้เวลานานเพราะด้วยมูลค่าสินค้าที่สูงทำให้ผู้บริโภคยังเชื่อถือยี่ห้อที่มีมายานนานมากกว่า แต่ก็ไม่ใช่ว่าจะไม่มีเลย เมื่อหลายปีก่อน Tesla ได้เปิดตัวรถยนต์ระบบไฟฟ้าขึ้นมาและยอดขายก็เติบโตขึ้นมาเรื่อยๆจนเริ่มจะทำกำไรได้เมื่อสองปีที่แล้วหลังจากที่เริ่มโปรเจคต์มาสิบปี

แต่ในขณะนี้ กลุ่มผู้ผลิตในวงการรถยนต์กำลังหวั่นเกรงกับการเข้ามาของสองยักษ์ใหญ๋ในโลก IT ที่ต้องการเข้ามีส่วนร่วมในวงการรถยนต์ด้วย นั่นคือ Google และ Apple

Google ได้เริ่มพัฒนาโปรเจกต์ self-driving car หรือรถยนต์ไร้คนขับ มาหลายปีแล้ว หลังจากทดสอบมาหลายปี จนถึงตอนนี้ได้ทดสอบรถไปแล้วกว่า 1 ล้านกิโลเมตร และคาดว่าจะออกวางจำหน่ายได้ประมาณปี 2017 และน่าจะมีบทบาทมากในส่วนของการขนส่งสาธารณะ

ทางด้านของ Apple นั้น ยังไม่มีข่าวคราวอะไรออกมามากนัก แต่มีหลักฐานที่พอจะเชื่อได้ว่า Apple กำลังดำเนินโปรเจ็กต์ iCar อยู่ลับๆ และมีแผนจะวางตลาดในปี 2020 ซึ่งในขณะนี้ยังไม่แน่ชัดว่าจะเป็น Electric car แบบ Tesla หรือ Self driving car แบบ Google

ข้อสังเกตที่น่าสนใจคือ ทั้งสองบริษัทเป็นบริษัทยักษ์ใหญ่ในวงการ IT ที่คนรู้จักกันดี ทำไมถึงเป็นบริษัทในวงการนี้ ผมคิดว่า

1.                        การผลิตรถยนต์ต้องมีสายป่านที่ยาวมากๆ และพร้อมที่จะลงทุนในการวิจัยโดยไม่มีรายได้อะไรเลยอย่างน้อยห้าปี นั่นหมายความว่า บริษัทนั้นจะต้องมีรายได้มหาศาลจากทางอื่นเพื่อนำมาใช้ในการวิจัย

2.                         เป็นบริษัทที่คนทั่วไปรู้จักกันดีและมีแบรนด์เป็นยอมรับจากผู้บริโภคทั่วไปทำให้ทำตลาดได้ง่ายขึ้น หากเป็นบริษัทอื่นที่คนทั่วไปไม่รู้จัก เช่น บริษัทปิโตรเคมีสักแห่งในนอร์เวย์ ถึงแม้ว่าอาจจะมีเงินทุนหนาพอ แต่การจะทำตลาดให้คนยอมรับและรู้จักในผลิตภัณฑ์คงต้องลงทุนอีกมหาศาลและใช้ระยะเวลายาวนาน ผิดกับสองยักษ์ใหญ่นี้ที่คนทั้งโลกรู้จักดี

3.                        เทคโนโลยีหลายอย่างๆในวงการ IT สามารถนำมาประยุกต์ใช้กับรถยนต์ได้ เพราะปัจจุบันหลายอย่างในรถก็ถูกควบคุมด้วยระบบคอมพิวเตอร์และมีแนวโน้มว่าระบบเหล่านี้จะมีบทบาทมากขึ้นเรื่อยๆ

4.                        การบริหารจัดการในวงการ IT เป็นการบริหารแบบสมัยใหม่ที่ต้องปรับตัวให้เข้ากับการเปลี่ยนแปลงให้ได้อย่างรวดเร็วและมีประสิทธิภาพ ข้อนี้เป็นสิ่งสำคัญมากและเป็นสิ่งที่บริษัทในวงการ IT ถนัดมาก เนื่องจากในการพัฒนาผลิตภัณฑ์จะมีการสอดแทรกฟีเจอร์ใหม่เข้ามาตลอด ซึ่งทีมงานต้องพร้อมเปิดกว้างในการเรียนรู้เทคโนโลยีใหม่ๆ รถยนต์ในอนาคตจะมีเทคโนโลยีเข้ามาควบคุมการทำงานมากขึ้นเรื่อยๆทำให้บริษัทเหล่านี้ได้เปรียบจากพื้นฐานโดยธรรมชาติของการพัฒนาผลิตภัณฑ์บนความเปลี่ยนแปลง

ก็น่าสนใจนะครับว่ารถของสองค่ายนี้หน้าตาจะออกมาเป็นอย่างไร เรื่องนี้คงต้องดูกันยาวๆ

แล้วจะมาเล่าให้ฟังใหม่ ฉบับนี้สวัสดีครับ

อภิชาต ชยานุภัทร์กุล

บจก.พีแอนด์เอส สเตนเลสสตีล เซ็นเตอร์

ตีพิมพ์ในวารสารเพื่อนสเตนเลสปีที่10 ฉบับที่3/มีนาคม 2558