ในโลกปัจจุบัน มีเทคโนโลยีใหม่เกิดขึ้นตลอดเวลา ส่งผลให้มีผลิตภัณฑ์และบริการใหม่ๆเกิดขึ้นตามรูปแบบการดำเนินชีวิตและการทำงานที่เปลี่ยนไป

Coworking Space เป็นบริการรูปแบบใหม่ที่กำลังเป็นที่นิยมมาก โดยหลักการคือ การให้บริการพื้นที่ทำงานแบบออฟฟิศ สำหรับคนรุ่นใหม่ โดยให้หลายๆคนมาแชร์กันในพื้นที่เดียวกัน เพื่อประหยัดค่าใช่จ่าย ซึ่งผู้เข้ามาใช้บริการไม่จำเป็นต้องทำสัญญาเช่าระยะยาวแบบออฟฟิศทั่วไป อาจจะเช่าเป็นรายเดือน รายสัปดาห์ รายวัน โดยผู้ให้บริการจะเตรียมสิ่งอำนวยความสะดวกและอุปกรณ์ต่างๆในการทำงานออฟฟิศให้

การแชร์กันแบบนี้ทำให้ลดภาระค่าใช้จ่ายในการเช่าออฟฟิศไปได้มาก โดยเฉพาะสำหรับคนที่เพิ่งเริ่มทำธุรกิจ (Startup business) ที่ยังไม่จำเป็นต้องใช้ออฟฟิศเต็มรูปแบบ เนื่องจากยังไม่ได้ใช้คนเยอะหรือต้องเดินทางบ่อย การเลือกใช้บริการ coworking ก็เป็นทางเลือกที่น่าสนใจ เพราะสามารถลดภาระรายจ่ายในส่วนนี้ไปลงทุนในด้านอื่นๆได้

ฟังๆดูก็เหมือนเอางานไปทำที่ร้านกาแฟที่มี wi-fi นะครับ ถ้างั้นแล้วการทำงานใน coworking space แตกต่างจากการทำงานในร้านกาแฟอย่างไร

คำตอบคือ ร้านกาแฟนั้น ธุรกิจหลักคือ การขายกาแฟ การให้บริการอินเตอร์เน็ตฟรีเป็นเพียงสิ่งอำนวยความสะดวกที่เสริมเข้ามาเพื่อดึงดูดลูกค้า แต่สำหรับลูกค้าที่ต้องการทำงานจริงจัง จำเป็นต้องใช้ ปลั๊กไฟ, printer, fax , การเชื่อมต่ออินเตอร์เน็ตความเร็วสูง และบางครั้งอาจต้องการเวลาทำงานนานหลายๆชั่วโมงหรือทั้งวัน ร้านกาแฟจะไม่ตอบโจทย์ตรงนี้ เพราะไม่ได้ถูกออกแบบมาสำหรับการทำงานอย่างจริงจัง

ออฟฟิศในรูปแบบ coworking เกิดขึ้นได้เพราะปัจจุบันทุกอย่างสามารถเรียกผ่านอินเตอร์เน็ตได้ ไม่ว่าจะเป็นอีเมล์ เอกสารต่างๆ หรือการติดต่อสื่อสารกับคนที่อยู่คนละมุมโลก จึงเหมาะมากกับงานบางประเภทที่ไม่จำเป็นต้องใช้พื้นที่มากนัก ซึ่งก็มักจะเป็นงานหน้าคอมเป็นหลัก เช่น งานเขียนโปรแกรม, งานออกแบบ/เขียนแบบ, งานกราฟฟิค

อย่างไรก็ตามผู้ใช้บริการอาจจะมีความต้องการต่างๆกันไป เช่น บางคนจำเป็นต้องใช้สมาธิใช้การทำงานก็อาจจะต้องการที่เงียบๆหน่อย, บางกลุ่มอาจต้องการห้องประชุม, ต้องการห้องส่วนตัว ฯลฯ ตรงจุดนี้ ผู้ให้บริการก็มีทางเลือกในการให้บริการหลายรูปแบบ ด้วยราคาที่ต่างกันไป

รูปแบบออฟฟิศ coworking ไม่ได้เหมาะกับธุรกิจทุกประเภท สำหรับบริษัทที่ผลิตสินค้าหรือทำเทรดดิ้งขายของเป็นเรื่องเป็นราว ออฟฟิศในรูปแบบเดิมน่าจะเหมาะกว่า กลุ่มเป้าหมายของผู้ให้บริการ coworking space จะเป็นกลุ่มผู้เริ่มทำธุรกิจใหม่, freelance, web-based business, และกลุ่มคนที่ทำงานกับ digital content เป็นส่วนใหญ่

ข้อดีอีกอย่างของการแชร์พื้นที่ออฟฟิศร่วมกัน คือ โอกาสในการพบปะกับผู้คนใหม่ๆ ผู้ให้บริการมีการจัดกิจกรรมเพื่อให้กลุ่มลูกค้าที่มาแชร์ออฟฟิศกันได้รู้จักกันเพื่อแลกเปลี่ยนประสบการณ์ สร้างโอกาส, และconnection ใหม่ๆ ซึ่งจากกลุ่มเป้าหมายที่เน้นไปที่คนรุ่นใหม่กับ digital content ทำให้กลุ่มคนที่มาแชร์กันมีรูปแบบการใช้ชีวิตและความสนใจที่คล้ายๆกัน ทำให้สร้างสัมพันธ์กันได้ไม่ยาก แต่หากลูกค้าไม่อยากจะไปสุงสิงกับใคร ก็ไม่มีการบังคับแต่อย่างใด

ปัจจุบัน มีผู้ให้บริการ coworking space กว่า 3,000 แห่งทั่วโลก จากสถิติพบว่าในแต่ละวัน มีผู้ให้บริการ coworking space เกิดขึ้นใหม่เฉลี่ย 5 แห่งทั่วโลก

สำหรับในเมืองไทยเอง เริ่มมีผู้ให้บริการบ้างแล้ว คือ Hubba Coworking Space มีออฟฟิศให้บริการอยู่ที่ เอกมัย ซอย 4 ถ้าสนใจก็ลองตามไปดูในเวบไซต์ของเค้าตามลิงค์ข้างล่างนี้ได้ครับ

ดร. อภิชาต ชยานุภัทร์กุล

บจก. พี แอนด์ เอส สเตนเลสสตีล เซ็นเตอร์

ตีพิมพ์ในวารสารเพื่อนสเตนเลสปีที่9 ฉบับที่12/พฤศจิกายน 2557

อ้างอิง:

https://www.youtube.com/watch?v=g0MbtQ9dawU

http://hubbathailand.com/