ท่ามกลางภาวะการแข่งขันที่สูงอย่างทุกวันนี้ การติดตามข้อมูลข่าวสารและเทคโนโลยีใหม่ๆ ตั้งแต่เครื่องจักร, ซอฟแวร์ ไปจนถึงการให้บริการและการบริหารจัดการภายในเป็นสิ่งที่หลีกเลี่ยงไม่ได้ ช่องทางหนึ่งที่ทำให้เราได้เห็นได้สัมผัสกับเทคโนโลยีใหม่ๆอย่างใกล้ชิด ก็คือ งานแสดงสินค้าต่างๆ ซึ่งนอกเหนือไปจากการแสดงเครื่องจักรแล้ว ในงานใหญ่ๆมักจะมีการจัดอบรมสัมมนาและการออกบูธของผู้ให้บริการและ subcontractor ต่างๆ

สำหรับวงการโลหะแผ่นในบ้านเราจะมีงานใหญ่ๆอยู่ 2 งาน คือ งาน Intermach และ งาน Metalex

งาน Intermach จัดประมาณเดือน พ.ค. ที่ BITEC บางนา  โดยเริ่มจัดมาตั้งแต่ปี 1984 งานนี้จะมาคู่กับงาน Subcon Thailand ด้วยซึ่งเป็นงานจับคู่คู่ค้าทางธุรกิจ สำหรับงานรับจ้างผลิต และยังมีงานอบรมสัมมนาต่างๆ

งาน Metalex จัดประมาณปลายเดือน พ.ย. ที BITEC บางนา งานนี้จะมีขนาดใหญ่กว่า Intermach ยิ่งช่วงปีหลังๆที่ผมไปมานี่ ผู้จัดงานต้องทำโดมชั่วคราวต่อขยายไปจากตัวอาคาร งานนี้เป็นงานแสดงเครื่องจักรกลและเทคโนโลยีโลหะที่ใหญ่ที่สุดในอาเซียน โดยในปี 2014 นี้จัดเป็นครั้งที่ 28 แล้ว

ทั้งสองงานนี้คงไม่ต้องพูดถึงมาก เพราะหลายท่านๆก็คงคุ้นเคยกันดีอยู่แล้ว มาดูที่ประเทศอื่นดีกว่า

ในอาเซียนเอง งาน Intermach ก็เริ่มขยายไปจัดที่เมืองย่างกุ้ง, เมียงมาร์ โดยปีนี้จะเป็นการจัดครั้งที่ 2 ช่วงเวลาที่จัดคือเดือน ต.ค. ดูจากพื้นที่จัดงานแล้วก็น่าจะเล็กกว่างานในเมืองไทยเกือบสิบเท่า

ส่วนของ Metalex นั้นมีจัดที่เวียดนามมาหลายปีแล้ว จัดครั้งแรกที่ฮานอยในปี 2007 แต่ช่วงหลังเปลี่ยนมาจัดที่โฮจิมินห์ซิตี้ โดยปีนี้จะจัดเป็นครั้งที่ 8 ช่วงเดือนต.ค. แน่นอนว่างานนี้เทียบกับ Metalex Thailand ก็ยังเล็กกว่ามากครับ อย่างไรก็ตาม เวียดนามเป็นประเทศหนึ่งที่น่าสนใจมากสำหรับการลงทุนโดยเฉพาะในปีหน้าที่จะเริ่มเปิด AEC

ออกไปนอกในอาเซียน ในเอเชีย งานแสดงเครื่องจักรด้านโลหะอันดับหนึ่งเลยคือ งาน JIMTOF จัดขึ้นที่โตเกียว งานนี้จะจัด 2 ปีครั้งโดยจะจัดอีกทีในเดือน พ.ย. 2014 นี้ งานนี้มีมานานมาก เพิ่งจะครบรอบ 50 ปีไปเมื่อปี 2012 ถ้าดูจากตัวเลขผู้แสดงสินค้าและผู้เข้าชมงาน ก็น่าจะประมาณได้ว่า ใหญ่กว่า Metalex Thailand สักเท่าตัว

สำหรับงาน JIMTOF จะมีค่าเข้าชมประมาณ 1000 เยน เข้าชมได้ตลอดทั้งงาน (6 วัน) ถ้าเป็นนักเรียน, นักศึกษาเข้างานฟรี ตัวผมเองเคยไปงานนี้เมื่อปี 2008 ก็รู้สึกว่า ยิ่งใหญ่อลังการสมเป็นงานใหญ่อันดับหนึ่ง ญี่ปุ่นเองก็เป็นผู้นำเทคโนโลยีอยู่แล้ว เทคโนโลยีใหม่ๆจึงขนมาโชว์ในงานนี้หมด เครื่องจักรใหญ่มากๆที่คงไม่ได้เห็นในงานบ้านเราก็ได้มาเห็นที่นี่ ข้อได้เปรียบในฐานะผู้ผลิตคือ เขาสามารถเอาเทคโนโลยีล่าสุดมานำเสนอได้เต็มที่ โดยยังไม่ต้องสนใจว่าจะขายได้หรือไม่ ต่างจากงานในบ้านเราที่ตัวแทนจำหน่ายส่วนใหญ่จะต้องพยายามขายเครื่องให้ได้ก่อนแล้วขอเครื่องลูกค้ามาโชว์ในงานก่อน เพราะการซื้อมาเก็บสต็อก ทางตัวแทนต้องแบกรับภาระค่อนข้างมาก ที่น่าสังเกตอีกอย่างคือ ในงานนี่ผมไม่เห็นมี pretty เลยสักบูธ ซึ่งส่วนตัวผมว่า ก็ดีแล้วเพราะรู้สึกไม่ค่อยจะเข้ากันเท่าไหร่ แต่ที่ขัดใจมากคือ pretty แต่ละบูธพูดออกไมค์แข่งกันเสียงดังๆนี่ทำเอาแทบไม่อยากจะเดินต่อ ผมสงสัยอยู่เหมือนกันนะครับว่า ประเทศเราเป็นประเทศเดียวในโลกหรือเปล่าที่งานแสดงเครื่องจักรมี pretty ประจำบูธ

คราวนี้มาถึงงานโลหะแผ่นอันดับหนึ่งของโลก คือ งาน EuroBlech จัดขึ้นที่เมืองฮันโนเวอร์ส ประเทศเยอรมนี งานนี้จัด 2 ปีครั้งเช่นกัน จัดอีกทีปลายเดือน ต.ค. 2014 เป็นครั้งที่ 23 ถ้ามองในแง่ของพื้นที่หรือจำนวนผู้เข้าชมแล้ว งาน EuroBlech อาจจะไม่ใหญ่เท่างาน JIMTOF แต่ที่ทำให้งานนี้เป็นงานโลหะแผ่นอันดับหนึ่งเพราะ เป็นงานแสดงสินค้าที่เกี่ยวกับโลหะแผ่นโดยตรง แต่ JIMTOF จะรวมงานโลหะด้านอื่นๆด้วย และอีกส่วนหนึ่งที่ทำให้ตัวเลขผู้เข้าชมงานนี้ไม่สูงมาก เพราะมีการเก็บค่าเข้าชมค่อนข้างสูง โดยคิดค่าเข้าชมวันละประมาณ 30 ยูโรหรือถ้าซื้อแบบ 5-day ticket ก็ตกอยู่ที่ประมาณวันละ 10 ยูโร งาน JIMTOF ก็เก็บค่าเข้าเหมือนกันแต่ราคาถูกกว่าประมาณ 4-5 เท่า  ดังนั้นผู้ที่เข้าชมงาน EuroBlech ส่วนใหญ่จึงเป็นผู้ที่สนใจด้านโลหะแผ่นจริงๆและมีส่วนในการพิจารณาจัดซื้อเครื่องจักร

ในระยะหลัง งานนี้เริ่มไปจัดที่ประเทศอื่นที่มีกำลังซื้อ คือ รัสเซีย, อินเดีย ในชื่อ Blech Russia, Blech India ซึ่งเริ่มจัดตั้งแต่ปี 2009 โดยจัดสองปีครั้ง และล่าสุดเริ่มมาจัดที่จีนในปีที่แล้วเป็นครั้งแรกที่เมืองซูโจว ที่เมืองจีนนี่จะจัดทุกปีราวเดือนพ.ค. ในชื่อ Blech China ซึ่งน่าจะเป็นงานโลหะแผ่นที่ใหญ่ที่สุดในเมืองจีนขณะนี้

ดร. อภิชาติ ชยานุภัทร์กุล

บจก. พีแอนด์เอส สเตนเลสสตีลเซ็นเตอร์

ตีพิมพ์ในวารสารเพื่อนสเตนเลสปีที่9 ฉบับที่5/พฤษภาคม 2557