
เครื่องพับโลหะแผ่น ![]() ในการขึ้นรูปชิ้นงานโลหะแผ่นนั้น กระบวนการพับ (bending) เป็นอีกขั้นตอนหนึ่งที่แทบจะขาดไม่ได้ในการผลิตชิ้นงาน ในศตวรรษที่ผ่านมา อาจกล่าวได้ว่า เทคโนโลยีของเครื่องพับโลหะแผ่นนั้นค่อยๆเปลี่ยนแปลงทีละน้อย โดยในยุคก่อนปี 1950 จะเป็นเครื่องพับแบบ mechanical press เครื่องพับประเภทนี้จะใช้มอเตอร์ไฟฟ้าที่อยู่ด้านบนของเครื่อง ส่งกำลังมาที่คานบนให้เคลื่อนที่ในแนวดิ่ง แล้วอัดลงมาประกบชิ้นงานและคานล่าง ซึ่งข้อเสียคือ ใช้กำลังไฟเยอะ , เสียงดัง, ความปลอดภัยต่ำ และควบคุมกำลังไม่ได้ ต่อมาจึงมีการคิดค้นเครื่องพับไฮดรอลิก ซึ่งสามารถแก้ข้อเสียของเครื่อง mechanical press ได้เกือบทั้งหมด เครื่องพับไฮดรอลิกจะมีกระบอกไฮดรอลิกสองกระบอกที่ด้านซ้ายขวาของเครื่อง กระบอกไฮดรอลิกนี้จะเป็นตัวขับเคลื่อนคานบนให้ค่อยๆเลื่อนลงมา โดยผู้ทำงานสามารถเลือกกำลังให้เหมาะสมกับชิ้นงานได้ จึงทำให้ประหยัดพลังงาน, ปลอดภัย และพับชิ้นงานได้แม่นยำกว่า ในยุคต่อมามีการนำ CNC controller เข้ามาใช้ในเครื่องพับไฮดรอลิก จึงทำให้การควบคุมต่างๆแม่นยำยิ่งขึ้นไปอีก และทำให้เครื่องพับไฮดรอลิกเป็นเครื่องพับที่นิยมมากที่สุด กระทั่งทุกวันนี้ ในช่วงยุค 1990s เครื่องพับอีกประเภทหนึ่งที่สอดแทรกขึ้นมาเป็นตัวเลือก คือ เครื่องพับระบบไฟฟ้า Electric Brake เครื่องพับประเภทนี้ จะใช้ servo motor เป็นตัวส่งกำลังไปที่บอลสกรูหรือระบบรอกเพื่อขับเคลื่อนคานบนให้ขึ้นลงในแนวดิ่ง เครื่องประเภทนี้มีข้อดีหลายอย่าง เช่น ความแม่นยำ, การดูแลรักษา, ความปลอดภัย แต่ก็มีข้อจำกัดที่ไม่สามารถผลิตเครื่องที่มีกำลังสูงมากนัก เครื่อง Electric Brake ระบบบอลสกรูที่มีกำลังสูงสุดในท้องตลาดคือ 88 ตัน ถ้าต้องการกำลังมากกว่านี้ก็ต้องใช้ระบบไฮดรอลิก หรืออีกทางเลือกหนึ่งคือ ระบบไฮบริด คือ เครื่องลูกผสมระหว่างระบบไฮดรอลิกและระบบไฟฟ้าะอย่างิย่ง ว อย่างไรก็ดี เมื่อปีที่แล้ว มีผู้ผลิตจากแคนาดาชื่อ Safan ได้เปิดตัวเครื่อง Electric Brake ระบบรอกขับเคลื่อนรุ่นใหม่ โดยเครื่องรุ่นนี้ถูกออกแบบให้มีการทดกำลังจนมีกำลังกดสูงถึง 330 ตัน ข้อดีของระบบรอกขับเคลื่อนคือ ทำให้กำลังกดกระจายไปทั่วคานซึ่งต่างจากระบบไฮดรอลิกที่กำลังกดจะเน้นหนักที่บริเวณกระบอกไฮดรอลิก รูปที่ 1. ระบบรอกทำให้แรงกดกระจายสม่ำเสมอทั่วคาน นอกจากนี้ เครื่องระบบไฟฟ้าจะประหยัดพลังงานมากกว่า เนื่องจากเวลาที่เครื่องไม่ได้ทำงาน เช่น ระหว่างการเซ็ทอัพ, การใส่โปรแกรม, เปลี่ยนทูลลิ่ง ฯลฯ เครื่องจะถูกควบคุมให้ใช้กำลังไฟน้อยที่สุด ซึ่งทางผู้ผลิตอ้างว่าสามารถประหยัดพลังงานได้ถึง 50% เทียบกับระบบไฮดรอลิก และยังบำรุงรักษาได้ง่ายกว่าเนื่องจากไม่ต้องเปลี่ยนน้ำมันไฮดรอลิกทำให้ประหยัดเวลาและค่าใช้จ่าย ครับ นี่ก็เป็นประวัติคร่าวๆและเทคโนโลยีใหม่ๆสำหรับเครื่อง press brake ถ้ามีอะไรน่าสนใจผมจะนำมาเสนอในโอกาสต่อไปครับ ดร. อภิชาติ ชยานุภัทร์กุล บจก. พี แอนด์ เอส สเตนเลสสตีล เซ็นเตอร์ ตีพิมพ์ในวารสารเพื่อนสเตนเลส ปีที่ 6 ฉบับที่ 72 / มีนาคม 2555 อ้างอิง http://www.thefabricator.com/article/bending/electric-press-brakes-bend-fast--and-safely http://www.cimindustry.com/news/bending/2011/09/09/the-electric-press-brake-how-it-works |