เทคนิคการทำ วีคัท อย่างไรให้ได้ชิ้นงานที่สวยสำหรับงานตกแต่ง

ทำไม? ต้องเลือกทำ วีคัท กับชิ้นงานที่ใช้ในการตกแต่ง

V-Cut คือการไสร่องหรือการกรีดเนื้อแผ่นงานโลหะ ไม่ว่าจะเป็นเหล็ก, สแตนเลสหรืออะลูมิเนียมให้เกิดเป็นร่องตัววีในบริเวณที่ต้องการ ก่อนการนำไปเข้าเครื่องพับเพื่อลดรัศมีมุมพับให้น้อยลงหรือแคบลงได้อย่างเรียบร้อย สวยงามและได้ขนาดชิ้นงานที่แม่นยำมากขึ้น ฉะนั้น การใช้เทคนิค วีคัท ในงานโลหะต่างๆ นั้นนอกจากจะใช้ผลิตชิ้นงานสำหรับอุตสาหกรรมต่างๆ ได้แล้ว เทคนิคนี้ยังนิยมนำใช้ในการผลิตชิ้นงานสำหรับตกแต่งภายในหรืองานเฟอร์นิเจอร์ที่ต้องการความละเอียด แม่นยำและความประณีตสวยงามอีกด้วย

โดยเฉพาะงานตกแต่งภายในทั้งอาคาร บ้านเรือนหรือสถาปัตยกรรมสไตล์ที่โมเดิร์นหรือเน้นความหรูหรา มักจะนิยมใช้งานโลหะเข้ามาเป็นส่วนหนึ่งของการตกแต่ง เช่น งานโครงสร้าง อาทิ ประตูหลังคา, ระเบียงหรืออุปกรณ์ตกแต่งบนระเบียง, งานเฟอร์นิเจอร์และงานตกแต่งผนัง ที่ต้องการโชว์ขอบมุมหรือความสวยงามของพื้นผิววัสดุ งาน วีคัท จึงเป็นทางเลือกที่ดีมากกกว่าการพับมุมแบบปกติสำหรับการผลิตชิ้นงานเหล่านี้ เพราะจะได้ชิ้นงานที่ต้องการพับมุมให้ได้ฉากที่แม่นยำเพื่อรับน้ำหนักได้มากขึ้น อีกทั้งยังมีขอบสวยคมมากยิ่งขึ้นด้วย แม้ว่าเทคนิคนี้จะสามารถทำกับโลหะได้หลากหลายทั้งเหล็ก, สแตนเลสหรืออะลูมิเนียม แต่สำหรับงานตกแต่งภายในหรือเฟอร์นิเจอร์ที่ต้องการความสวยงาม วัสดุที่เป็นสแตนเลสจึงได้รับความนิยมมากว่า

ทำไม? งาน วีคัท ถึงนิยมทำกับวัสดุสแตนเลส

การทำ V-Cut สแตนเลสนั้นถือเป็นวัสดุที่ได้รับความนิยมสำหรับงานตกแต่งภายในบ้าน, อาคาร, งานสถาปัตยกรรมต่างๆ, งานคิ้วหรือกรุยเชิง รวมถึงงานเฟอร์นิเจอร์ เช่น ชั้นวาง, ส่วนประกอบของโต๊ะหรือตู้ ฯลฯ เพราะสแตนเลสมีความเงางามทำให้ดูหรูหราและทันสมัย นอกจากจะมีรูปแบบและสีที่หลากหลายแล้ว ยังมีความทนทานใช้งานได้ยาวนานด้วยคุณสมบัติและประโยชน์มากมาย เช่น

• สามารถทนทานต่อการกัดกร่อนได้เป็นอย่างดี
• สามารถทนต่ออุณหภูมิได้ทั้งสูงและต่ำแบบฉับพลัน
• สามารถนำมาใช้ในงานประกอบหรือขึ้นรูปได้ง่าย ไม่ว่าจะเป็นการเชื่อม, การขึ้นรูปนูนต่ำ, ลากขึ้นรูป หรือการทำ วีคัท
• เป็นโลหะที่มีความเป็นกลางไม่ดูดซึมรสชาติใดๆ นิยมสแตนเลสนำมาใช้ทำเครื่องครัวและอุปกรณ์ทางการแพทย์ต่างๆ ที่มาใช้กับมนุษย์ทั้งอุปโภคและบริโภคได้อย่างปลอดภัย

ความจริงแล้วงานงานพับสแตนเลสนั้น มีทั้งแบบ V-Cut ที่เป็นกรีดหรือไสร่องเพื่อสร้างมุม 90 องศาก่อนการพับเป็นรูปวี และ U-Cut จะเป็นการสร้างขอบโค้งรูปตัว U ในวัสดุ ซึ่งงานงานพับสแตนเลสแบบยูคัทเป็นมุมโค้งและขนาดของชิ้นงานที่ได้จะไม่ค่อยมีความแม่นยำเท่าไหร่นัก ฉะนั้นสำหรับงานตกแต่งภายในจึงนิยมใช้เทคนิคการทำ V-Cut มากกว่า นั่นเอง

การทำ วีคัท สแตนเลสมีข้อดีอย่างไรบ้าง?

สำหรับงานสแตนเลสที่ใช้ในการตกแต่งภายในหรือเฟอร์นิเจอร์นั้น จะถูกนำไปแปรรูปเป็นรูปแบบต่างๆ ได้มากมาย เพื่อนำไปใช้เป็นชิ้นงานได้ตั้งแต่ชิ้นงานเล็กๆ เช่น กรุยเชิง, บัวเชิงพื้น, คิ้ว, จมูกบันได, ฉากหรือชิ้นส่วนเฟอร์นิเจอร์ จนไปถึงชิ้นงานใหญ่ๆ เช่น งานกรุผนัง, กรุฝ้า, ลิฟท์และบันไดเลื่อน ซึ่งการใช้งานแต่ละประเภทนั้น มีความต้องการในเรื่องของความสวยงามแม่นยำที่แตกต่างกัน ฉะนั้น จึงมีความจำเป็นที่จะต้องใช้เครื่องมือเครื่องจักรที่ทันสมัย ประกอบกับช่างที่ชำนาญในการทำ วีคัท โดยเฉพาะ และนี่คือข้อดีของงานพับสแตนเลสแบบ V-Cut

• มีความหลากหลายในการออกแบบ : การพับสแตนเลสแบบ V-Cut สามารถสร้างรูปร่างที่หลากหลายและซับซ้อนได้ ช่วยเพิ่มความทันสมัยและความโดดเด่นในชิ้นงานตกแต่งได้เป็นอย่างดี
  
  
• มีความละเอียดแม่นยำสูง : เครื่องมือพับสแตนเลสอย่างเครื่อง CNC นั้นมีความแม่นยำสูง ทำให้ได้ผลลัพธ์ของชิ้นงานที่เป็นไปตามมาตรฐาน ประณีตสวยงาม
  
  
• ความรวดเร็วในการผลิต : เพราะกระบวนการพับสแตนเลสแบบ วีคัท ด้วยเครื่องจักร CNC นั้นนอกจากความแม่นยำแล้วก็ยังมีความเร็วในการผลิตสูงอีกด้วย
  
  
• สามารถทำรูปทรงซับซ้อนได้ : การพับสแตนเลสแบบ V-Cut สามารถผลิตชิ้นงานที่มีโครงสร้างหรือรูปร่างที่ต้องการ หรือมีความซับซ้อนได้สวยงามและทันสมัย สำหรับใช้ในงานตกแต่งภายในหรือเป็นส่วนประกอบของเฟอร์นิเจอร์ได้อย่างโดดเด่นและเป็นเอกลักษณ์

ความสวยของชิ้นงาน วีคัท ขึ้นอยู่กับปัจจัยอะไรบ้าง?

1. เครื่องที่ใช้พับ : เพราะแต่ละเครื่องที่ใช้พับโลหะนั้น มีข้อจำกัดในการทำชิ้นงาน เช่น ระยะแนว V-Cut จากขอบชิ้นงาน ทำให้ทำงานได้ไม่เหมือนกัน ซึ่งเครื่องพับโลหะแผ่นแบบ Press Brake นั้นมีอยู่ 2 ระบบหลักๆ คือ
   • ระบบ NC : เป็นระบบกึ่งอัตโนมัติ มีความแม่นยำและความรวดเร็วในการผลิตน้อยกว่าเครื่องพับที่เป็นระบบ CNC
     
   • ระบบ CNC : เครื่องพับโลหะแผ่นที่ถูกพัฒนามาจากระบบ NC เพราะเป็นระบบ Auto สามารถควบคุมแกนได้ 4 แกนครึ่ง สามารถทำงานตามโปรแกรมที่ป้อนเข้าในระบบคอมพิวเตอร์ได้อัตโนมัติ มีโปรแกรมสำเร็จสำหรับการคำนวณค่าต่างๆ เช่น ความเร็วรอบ อัตราป้อน ฯลฯ จึงทำให้ชิ้นงานมีความแม่นยำและความเร็วในการผลิตได้มากขึ้น
     
     
2. เทคนิควางแผนความลึกของร่อง วีคัท : การวางแผนความลึกของร่อง V-Cut เป็นกระบวนการที่ใช้ในการสร้างร่อง V-Shape หรือความลึกในวัสดุ ซึ่งจะต้องวางให้เหมาะสมกับ section ชิ้นงานที่จะต้องพับ โดยกระบวนการนี้มักนำมาใช้ในการสร้างโครงสร้างที่มีความซับซ้อน เช่น งานตกแต่งภายในหรือแม้กระทั่งในงานศิลปะ ซึ่งมีขั้นตอนที่สามารถใช้ในการวางแผนความลึกของร่อง V-Cut ดังนี้
   • กำหนดรูปร่างของร่อง วีคัท และระบุความลึกและมุมของร่อง
   • กำหนดตำแหน่งและทิศทางของ V-Cut บนแผ่นวัสดุ
   • เลือกรูปแบบของ V-Cut ซึ่งสามารถเป็นรูป V ที่มีมุม 90 องศา, 60 องศา, หรือรูปทรงอื่น ๆ ตามที่ต้องการ
     
     
3. การเลือกความลึกเทียบกับลักษณะของวัสดุให้เหมาะสม : การกำหนดความลึกของ V-Cut พร้อมกับกำหนดความหนาและลักษณะของวัสดุและมุมของ วีคัท จากนั้นก็ทำการตรวจสอบความลึกและมุม จะช่วยเพิ่มความแม่นยำและสวยงามได้ตามที่ต้องการอีกด้วย

การทำ V-Cut เป็นงานที่ต้องการความชำนาญของช่างหรือบริษัทที่มีเทคนิคเฉพาะตัว ร่วมกับความทันสมัยของเครื่องมือเครื่องจักรที่ในการพับ การกรีดหรือไสร่อง เพื่อให้ได้ชิ้นงานที่แม่นยำ ประณีตและสวยงาม อีกทั้งยังได้ชิ้นงานไม่มีเศษแหลมคมหรือเสียเศษน้อยที่สุดอีกด้วย ซึ่งบริษัท P&S Stainless Steel Center เราคือโรงงานที่ผลิตชิ้นงานประกอบจากสแตนเลสแผ่นที่มีความชำนาญงาน ในเรื่องการทำ วีคัท เพราะเรามีช่างเทคนิคที่มีความชำนาญในงานงานชนิดนี้โดยเฉพาะ ที่พร้อมร้างสรรค์งานที่ดีที่สุด ประณีตและละเอียดมากที่สุดให้คุณ

ติดต่อสอบถามรายละเอียดเพิ่มเติม หรือสั่งซื้อสินค้าได้ที่
บริษัท พี แอนด์ เอส สเตนเลสสตีลเซ็นเตอร์ จำกัด
Tel : 081-618-0778, 081-615-4296, 082-782-8654, 02-753-7753
Fax : 02-753-7770
Email : pands_stainless@yahoo.com
LINE : @psmetal
Facebook : @psstainlesssteel