ปัจจัยที่ทำให้งานขึ้นรูปโลหะไม่ได้คุณภาพ มีอะไรบ้าง
การผลิตชิ้นงานขึ้นรูปโลหะให้มีคุณภาพ ต้องคำนึงถึงปัจจัยใดบ้าง
การขึ้นรูปโลหะให้เป็นชิ้นงานต่าง ๆ เช่น ชิ้นส่วนรถยนต์ วัสดุก่อสร้าง หรือชิ้นส่วนเครื่องใช้ไฟฟ้า จะมีทั้งการขึ้นรูปโลหะแผ่นและการขึ้นรูปโลหะก้อนด้วยเครื่องจักรขึ้นรูปโลหะ ซึ่งสามารถทำได้หลายวิธี
เราสามารถแบ่งวิธีการขึ้นรูปโลหะได้ตามประเภทของโลหะ ดังนี้
- การขึ้นรูปโลหะแผ่น
การขึ้นรูปโลหะแผ่น คือการนำโลหะแผ่นมาขึ้นรูปโลหะด้วยวิธีการต่าง ๆ เช่น การพับขึ้นรูปโลหะ, การตัดเฉือนโลหะ, การลากขึ้นรูปลึก
- การขึ้นรูปโลหะก้อน
สำหรับการขึ้นรูปโลหะก้อน สามารถนำก้อนโลหะมาผ่านกระบวนการต่าง ๆ เพื่อทำให้เป็นชิ้นงาน เช่น การทุบขึ้นรูปโลหะ, การรีดขึ้นรูป, การอัดรีดขึ้นรูป,
นอกจากนี้ยังสามารถแบ่งประเภทของการขึ้นรูปโลหะได้ตามวิธีการปั๊มขึ้นรูปซึ่งมีทั้งหมด 2 วิธี คือการปั๊มขึ้นรูปโลหะแบบร้อน และการปั๊มขึ้นรูปโลหะแบบเย็น ซึ่งวิธีการขึ้นรูปโลหะทั้งหมดนี้ จะทำให้โลหะแผ่นหรือโลหะก้อน มีรูปทรงความโค้งงอหรือมีเหลี่ยมมุมตามที่ได้ออกแบบชิ้นงาน และมีการคำนวณค่าต่าง ๆ เอาไว้ แต่บางครั้งในกระบวนการขึ้นรูปโลหะแต่ละวิธี ก็อาจเกิดปัญหาที่ทำให้ชิ้นงานขึ้นรูปโลหะไม่ได้คุณภาพ เช่น โลหะดีดตัวทำให้ชิ้นงานไม่ได้องศาการดัดตามที่ออกแบบไว้, ขนาดของมุมไม่ได้ค่าตามที่คำนวณไว้ ซึ่งเป็นปัญหาที่เกิดจากการที่โลหะดีดตัวกลับ, ชิ้นงานแตกร้าวหรือหัก, ชิ้นงานเกิดออกไซด์ หรือมีสะเก็ดเกิดขึ้นบนชิ้นงาน, ปัญหาการเกิดรอยย่นที่ผนังและขอบของชิ้นงานขึ้นรูปโลหะที่ผลิตด้วยวิธีการลากขึ้นรูปลึก หรือปัญหาชิ้นงานขึ้นรูปโลหะเป็นรอย เพราะเกิดการยึดติดกับตัวแม่พิมพ์ที่ขาดการหล่อลื่นและมีช่องว่างระหว่างแม่พิมพ์กับพันช์น้อยเกินไป ปัญหาที่มักพบเจอในการขึ้นรูปโลหะแต่ละแบบ มักมีปัจจัยต่าง ๆ
ปัจจัยที่ส่งผลต่องานขึ้นรูปโลหะที่ไม่ได้คุณภาพ มีอะไรบ้าง
- วิธีการที่ใช้ในการขึ้นรูปโลหะ
วิธีการขึ้นรูปโลหะแบบต่าง ๆ ไม่ว่าจะเป็นการดัดขึ้นรูปโลหะ, การทุบขึ้นรูปโลหะ, การรีดขึ้นรูปโลหะ, การพับขึ้นรูปโลหะ การตัดเฉือนโลหะ หรือการลากขึ้นรูปโลหะ จะมีจุดที่เป็นข้อเสียแตกต่างกันออกไป ซึ่งข้อเสียเหล่านี้ ก่อให้เกิดชิ้นงานขึ้นรูปโลหะที่ไม่ได้คุณภาพ ตัวอย่างเช่น การปั๊มขึ้นรูปโลหะแบบร้อน เป็นวิธีที่ควบคุมการหดตัวหรือขยายตัวของโลหะได้ยาก ดังนั้นจึงอาจทำให้ขนาดของชิ้นงานขึ้นรูปโลหะไม่เป็นไปตามแบบที่วางไว้ หรือการลากขึ้นรูปลึกที่หากคำนวณแรงจับยึดวัสดุน้อยและรัศมีดายมากเกินไป ก็จะทำให้เกิดรอยย่นบนผนังของชิ้นงาน ดังนั้นแต่ละวิธีที่ใช้ในการขึ้นรูปโลหะ จะต้องมีการคำนวนค่าคุณสมบัติทางกลของวัสดุให้ทำงานสอดคล้องกับวิธีที่ใช้ในการขึ้นรูปโลหะ
- ลักษณะและคุณภาพของแม่พิมพ์ขึ้นรูปโลหะ
แม่พิมพ์ขึ้นรูปโลหะที่นำมาใช้ผลิตชิ้นงาน จะต้องการมีคำนวณหาค่าต่าง ๆ ในการออกแบบแม่พิมพ์ และมีการทดสอบการใช้งาน เพื่อให้แม่พิมพ์งานขึ้นรูปโลหะมีความแม่นยำ และทำงานได้สอดรับกับชิ้นงานที่ต้องการผลิต โดยไม่ทำให้ชิ้นงานเกิดความผิดพลาด ซึ่งการออกแบบแม่พิมพ์ขึ้นรูปโลหะให้มีคุณภาพนั้น จะต้องคำนึงถึงหลายส่วน เช่น
- รัศมีของบ่าดายที่จะมีผลต่อการไหลตัวของโลหะลงสู่แม่พิมพ์ ทำให้ต้องมีการคำนวณหาค่าของรัศมีบ่าดายที่เหมาะสมกับประเภทและคุณสมบัติทางกลของวัสดุ โดยบ่าดายไม่ควรใหญ่หรือเล็กเกินไป เพราะบ่าดายเป็นปัจจัยสำคัญที่จะส่งผลต่อแรงที่ใช้ในการลากขึ้นรูป และการไหลตัวลงสู่แม่พิมพ์ของวัสดุ
- แรงกดยึดแผ่นชิ้นงาน สำหรับการขึ้นรูปโลหะแผ่น จะต้องผ่านการคำนวณที่ถูกต้องเหมาะสม เพื่อไม่ให้ชิ้นงานเกิดรอยย่นหรือรอยแตก
- ชนิดของโลหะที่ใช้ทำชิ้นงานขึ้นรูปโลหะ
หากวัสดุที่นำมาขึ้นรูปโลหะมีความแข็ง ก็อาจเป็นปัจจัยที่ทำให้เกิดปัญหาในการขึ้นรูปโลหะด้วยการลากขึ้นรูปลึกิเพราะจะต้องใช้แรงในการลากขึ้นรูปที่มากกว่าปกติ และอาจทำให้เกิดการฉีกขาดของวัสดุ
- อุณหภูมิของโลหะที่นำมาผลิตชิ้นงานขึ้นรูปโลหะ
อุณหภูมิของวัสดุมีผลอย่างมากต่อการขึ้นรูปโลหะ แต่ทั้งนี้ก็ขึ้นอยู่กับวิธีที่ใช้การขึ้นรูปโลหะด้วย เพราะบางวิธีหากวัสดุมีอุณหภูมิสูง ก็จะควบคุมรูปทรงและขนาดมุมของชิ้นงานได้ยาก แต่กับการขึ้นรูปโลหะบางวิธี จะต้องมีการนำวัสดุไปทำให้มีอุณหภูมิสูงเสียก่อน แล้วจึงนำวัสดุมาผ่านกระบวนการขึ้นรูปโลหะอีกที
- คุณภาพของโลหะที่นำมาขึ้นรูป
หากโลหะที่นำมาผลิตชิ้นงานขึ้นรูปโลหะ มีคุณภาพไม่ได้มาตรฐาน เช่น เนื้อโลหะมีความพรุน ชิ้นงานก็อาจเกิดปัญหารอยแตกร้าวหลังผ่านกระบวนการขึ้นรูปโลหะ จึงต้องมีการคำนวณค่าแรงกระทำต่าง ๆ เพื่อปรับให้วัสดุมีความหนาแน่นมากขึ้นได้
- คุณสมบัติทางกลของโลหะที่นำมาใช้ทำชิ้นงานขึ้นรูปโลหะ
โลหะทุกชนิดมีคุณสมบัติทางกล เช่น แรงเค้น ความเครียด ความยืดหยุ่น ทำให้ก่อนจะนำโลหะมาผ่านกระบวนการขึ้นรูปโลหะ จะต้องมีการคำนวณโดยอิงจากค่าต่าง ๆ ของคุณสมบัติทางกลเหล่านี้ และมีการชดเชยค่าต่าง ๆ เพื่อให้การขึ้นรูปโลหะมีความแม่นยำ และเกิดความผิดพลาดน้อยที่สุด ดังนั้นหากการคำนวนคุณสมบัติทางกลไม่แม่นยำ ก็อาจทำให้ชิ้นงานขึ้นรูปโลหะมีความผิดพลาดได้ เช่น การคำนวณความเครียดในเนื้อโลหะ ที่จะส่งผลต่อการคืนตัวของวัสดุหลังผ่านการขึ้นรูปโลหะ หรือแรงเค้นในเนื้อโลหะ ซึ่งหมายถึงแรงต้านของวัสดุที่มีต่อแรงภายนอกที่เข้ามากระทำ เช่น แรงบีบและแรงอัดของแม่พิมพ์ขึ้นรูปโลหะ
- ความหนาของโลหะที่นำมาใช้ทำชิ้นงานขึ้นรูปโลหะ
หากวัสดุโลหะที่นำมาใช้ผลิตชิ้นงานขึ้นรูปโลหะมีความหนา ก็จะต้องมีการคำนวณการออกแบบแม่พิมพ์ให้สอดคล้องกับระดับความหนาของวัสดุ เพื่อหาแรงกระทำของเครื่องจักรขึ้นรูปโลหะที่เหมาะสม
- รัศมีการดัดหรือพับขึ้นรูปโลหะ
การคำนวณรัศมีการดัดหรือการพับขึ้นรูปโลหะ จะต้องมีค่ามากกว่าหรือเท่ากับความหนาของโลหะ และต้องมีการคำนวณค่าการงอหรือดัดขึ้นรูปโลหะให้มากกว่าความต้องการ เพื่อแก้ปัญหาการดีดตัวกลับของวัสดุ
ปัญหาชิ้นงานขึ้นรูปโลหะที่ไม่ได้คุณภาพเหล่านี้จะหมดไป หรือเกิดขึ้นน้อยมาก หากคุณเลือกใช้บริการขึ้นรูปโลหะจากโรงงานที่มีคุณภาพ ทำงานด้วยเครื่องจักรที่มีความแม่นยำ และมีทีมช่างผู้ชำนาญการ เช่น พี แอนด์ เอส สแตนเลสสตีล เซ็นเตอร์ ผู้ให้บริการขึ้นรูปโลหะทุกประเภท ทั้งตัดโลหะ พับโลหะแผ่น ตัดเลเซอร์ วีคัท ตัดพลาสม่า และม้วนโลหะแผ่น โดยเครื่องจักรขึ้นรูปโลหะที่ควบคุมด้วยระบบ CNC ที่มีความแม่นยำสูง พร้อมบริการทำสีโลหะและบริการติดตั้งนอกสถานที่
ติดต่อสอบถามรายละเอียดเพิ่มเติม หรือสั่งซื้อสินค้าได้ที่
บริษัท พี แอนด์ เอส สเตนเลสสตีลเซ็นเตอร์ จำกัด
Tel : 081-618-0778, 081-615-4296, 082-782-8654, 02-753-7753
Fax : 02-753-7770
Email : pands_stainless@yahoo.com
LINE : @psmetal
Facebook : @psstainlesssteel