ขั้นตอนและการเลือกอุปกรณ์พับโลหะแผ่นที่เหมาะสม
การพับโลหะจัดอยู่ในกลุ่มของงานขึ้นรูปโลหะ หรือการเปลี่ยนรูปของโลหะแบบแผ่น ให้อยู่ในรูปทรงต่าง ๆ ตามที่ต้องการ ทั้งนี้ปัจจุบันมีความแพร่หลายมาก ส่วนหลักการสำคัญของงานชนิดนี้คือ การขึ้นรูปแผ่นโลหะให้เป็นองศาตามที่แนวการพับ โดยจะมีเทคนิคการพับแบบเฉพาะ เพื่อให้ได้งานที่ตรงตามความต้องการของลูกค้า หรือตามแบบของสายงานผลิต ทั้งนี้จะมีวิธีการพับ รวมถึงใช้อุปกรณ์สำหรับพับที่แตกต่างกันออกไปตามลักษณะงาน
พับโลหะเพื่อผลิตแผ่นคืออะไร นำไปใช้อะไรได้?
พับโลหะ หมายถึง การพับแผ่นเหล็กหรือแผ่นโลหะ รวมถึงแผ่นสเตนเลสแผ่นเรียบทุกรูปแบบ ให้ได้รูปทรงตามที่ต้องการ ซึ่งจะมีเทคนิคการพับตามรูปทรงแทบจะตายตัว หรืออาจจะมีเทคนิคเฉพาะของแต่ละร้าน รวมถึงอาจจะมาจากความต้องการของลูกค้าเป็นหลักว่า ต้องการพับแผ่นโลหะเพื่อนำไปใช้อะไรต่อไป ผ่านเครื่องพับแบบต่าง ๆ โดยจะแบ่งออกเป็น 2 ประเภทหลัก ๆ คือแบบ Brake และแบบ Folder ส่วนวิธีการพับจะมีให้เลือกหลากหลายรูปแบบด้วยกัน ซึ่งทุกรูปแบบมีประโยชน์ต่อการเคลื่อนย้ายและนำไปใช้งานของกลุ่มงานต่าง ๆ นั่นเอง
ทำความรู้จักกับเครื่องมือสำหรับใช้พับแผ่นโลหะที่นิยมใช้กัน
เมื่อพูดถึงการพับโลหะ สิ่งที่สำคัญต่อการพับนั่นก็คือ เครื่องมือหรือเครื่องจักรสำหรับงานพับโลหะ เพราะเป็นอุปกรณ์จำเป็นอย่างมากที่ช่วยให้งานพับตอบโจทย์ความต้องการของลูกค้ามากยิ่งขึ้น ทั้งนี้เครื่องมือพับโลหะในปัจจุบันแบ่งออกเป็น 2 ประเภทหลัก ๆ นั่นก็คือ แบบ Brake และแบบ Folder เครื่องพับส่วนใหญ่จะมีระบบ CNC หรือ Computer Numberical Control หมายถึงการขึ้นรูปต่าง ๆ จะผ่านการควบคุมด้วยคอมพิวเตอร์ทุกขั้นตอน ส่วนชนิดของเครื่องพับโลหะทั้ง 2 ชนิด มีลักษณะดังนี้
- เครื่องพับแบบ Brake หมายถึงเครื่องพับที่สามารถพับขอบโลหะ โดยไม่จำกัดความลึก เหมาะกับการพับแผ่นโลหะที่มีความลึกมาก ๆ ทำให้ได้งานดี ตรงตามความต้องการของลูกค้า และเหมาะกับงานหลากหลายรูปแบบ โดยปัจจุบันจะแบ่งออกเป็น 2 รูปแบบดังนี้ · เครื่องพับ (Connice Brake) หลักการทำงานคือ จะพับแบบปากกดทับให้ชิ้นงานเป็นชิ้น ๆ เหมาะกับงานพับโลหะที่มีความหนาและยาว อาทิเช่น งานรางน้ำ ท่อ หรือพับเข้าขอบ ฯลฯ · เครื่องพับกล่องและกระทะ (Box and Pan Brake Bending Machine) การทำงานในการพับจะแยกชิ้นงานได้ เหมาะกับการขึ้นรูปกล่องมากที่สุด
- เครื่องพับแบบ Folder สำหรับเครื่องพับแบบนี้จะหมายถึง เครื่องพับที่มีข้อจำกัดในการพับขอบ เหมาะกับงานพับขอบไม่ลึกมาก ทั้งนี้จะมีอยู่ในรูปแบบของ เครื่องพับแบบบาร์โฟลเดอร์ (Bending Sheet Metal On A Bar Folder) คือเครื่องพับที่เหมาะกับงานจำนวนมาก โดยมีข้อดีคือช่วยให้การทำงานไวขึ้น เพราะจะมีตัวตั้งระยะและพับงานได้จำนวนมาก โดยไม่ต้องผ่านการร่างแบบขึ้นมาก่อน แต่จะมีข้อจำกัดคือไม่สามารถพับงานขอบลึกได้ ทำให้เหมาะกับงานพับขอบแคบ ๆ ทุกชนิด
วิธีการพับโลหะในปัจจุบันมีกี่รูปแบบ
สำหรับวิธีการพับโลหะ (Bending) ในปัจจุบันมีหลายรูปแบบนิยมใช้กันอย่างต่อเนื่อง การเปลี่ยนรูปโลหะแผ่นเรียบ (Sheet Metal) ด้วยวิธีการพับโลหะให้เป็นรูปทรงต่าง ๆ ตามที่ต้องการ โดยจะมีขั้นตอนการพับ และวิธีการพับที่ค่อนข้างตายตัว ซึ่งแต่ละร้านจะใช้วิธีการพับไม่ต่างกันมากนัก แต่ส่วนใหญ่จะขึ้นอยู่กับการตัดสินใจเลือกใช้บริการของลูกค้า สำหรับวิธีการพับหลัก ๆ มีดังนี้
- การพับด้วยวิธีดัดโค้ง สำหรับการพับโลหะแบบดัดโค้ง หรือให้อยู่ในรูปแบบของตัววี (V Shape) คือการพับที่นิยมกันมากที่สุด ด้วยขั้นตอนการพับง่าย ๆ นั่นก็คือใช้แม่พิมพ์ตัววีเข้ามาช่วย จากนั้นดัดโลหะให้ได้มุมตามที่ต้องการ ก่อนจะกดลงไปเพื่อให้ได้ตัวรูปตัววีตามแม่พิมพ์ ซึ่งสามารถออกแบบให้มีมุมโค้ง มุมป้าน ได้ตามองศาที่ต้องการ ทั้งนี้สามารถขึ้นโค้งได้ถึง 90 องศา กันเลยทีเดียว
- การดัดด้วยอากาศ ต่อกันด้วยการพับแผ่นโลหะด้วยวิธีการพับด้วยอากาศคือ มีขั้นตอนการทำคล้าย ๆ กับการพับให้ได้ตัววีเกือบทุกอย่าง แต่การ Punch หรือการกดจะมีวิธีการพับด้วยอากาศเข้ามาช่วย ซึ่งจะไม่ได้บังคับให้แผ่นโลหะเข้าไปในแม่พิมพ์ด้านล่างทั้งหมด เพราะจะต้องเว้นช่องว่างของบล็อกพิมพ์เอาไว้ระยะหนึ่ง ทำให้งานที่ได้จะออกมามีลักษณะมุมโค้งงอมากกว่า
- การพับด้านล่าง สำหรับวิธีการพับโลหะด้านล่าง (Bottoming) เป็นวิธีการพับโลหะรูปตัววี ที่มีปัญหาในส่วนของสปริงกลับ (Spring Back) หรือการดีดตัวของโลหะ จนทำให้เกิดปัญหาผิดรูปขึ้นมาในบริเวณของโค้งงอ หลังจากพับหรือดัดโลหะเสร็จแล้ว ดังนั้นจึงต้องผ่านกระบวนการพับใหม่ ด้วยวิธีการนี้ ช่วยให้ได้โลหะขึ้นรูปตามที่ต้องการจริง ๆ และจบปัญหาเรื่องของสปริงกลับ
- การพับแบบเช็ดดัด มาต่อกันด้วยวิธีการพับแบบเช็ด หรือการพับขอบของแผ่นโลหะ โดยจะมีขั้นตอนการพับคือนำแผ่นโลหะไปตรึงไว้กับแม่พิมพ์เช็ด จากนั้นออกแรงพับขอบของโลหะที่ยื่นออกมาจากแม่พิมพ์ ทำให้ได้แผ่นโลหะงอในแบบที่ต้องการ แต่แบบนี้มีขั้นตอนการพับค่อนข้างซับซ้อน และไม่เหมาะกับการเลือกพับแบบสร้างโค้งมุมป้าน หรือแนวนอน
- การพับแบบม้วนงอ อีกหนึ่งรูปแบบการพับที่ค่อนข้างเจอได้บ่อย โดยวิธีการพับหรือขึ้นรูปแผ่นโลหะง่าย ๆ แค่ม้วนแผ่นโลหะให้เป็นม้วน หรืออาจจะอยู่ในรูปแบบของท่อ กรวย หรือรูปทรงต่าง ๆ ที่โค้ง โดยมีขั้นตอนการพับคือจะใช้ชุดลูกกลิ้งเข้าไปจากนั้นค่อย ๆ ขึ้นรูปให้ได้ทรงโลหะตามโค้งที่ต้องการ โดยสามารถใช้ดัดม้วนแผ่นโลหะที่มีความยาวมาก ๆ อาทิเช่น โลหะสำหรับทำแผง ราง หรือชั้นวาง เป็นต้น
- การพับแบบโรตารี วิธีการพับโลหะแบบโรตารีคือ การพับแผ่นโลหะผ่านแม่พิมพ์ โดยจะหมุนและดึงเข้ารอบ ๆ แม่พิมพ์ โดยให้ได้รูปเรขาคณิตตามที่ต้องการ จะเน้นรัศมีการโค้งงอตามที่ต้องการ ซึ่งสามารถพับโลหะให้ได้มุมแหลม และมุมโค้งป้านได้ ส่วนข้อดีของการพับแบบนี้คือ จะช่วยตัดปัญหารอยขีดข่วนบนผิวโลหะระหว่างอยู่ในขั้นตอนการพับ จนเกิดปัญหาแก้งาน หรืออาจจะโดนตีกลับสูงมาก
หากพูดถึงวิธีการพับแผ่นโลหะนั้นไม่ใช่เรื่องยากเลย เพราะแค่มีความรู้วิธีการพับและมีเครื่องมือที่เหมาะสม รวมถึงมีเทคนิคการพับตอบโจทย์ความต้องการของลูกค้า ช่วยลดความผิดพลาดของงานให้น้อยลง
ติดต่อสอบถามรายละเอียดเพิ่มเติม หรือสั่งซื้อสินค้าได้ที่
บริษัท พี แอนด์ เอส สเตนเลสสตีลเซ็นเตอร์ จำกัด
Tel : 081-618-0778, 081-615-4296, 082-782-8654, 02-753-7753
Fax : 02-753-7770
Email : pands_stainless@yahoo.com
LINE : @psmetal
Facebook : @psstainlesssteel