ประโยชน์และการทำงาน รวมถึงข้อจำกัดของงานวีคัท

วีคัทมีประโยชน์รอบด้านต่องานขึ้นรูปหรือพับโลหะทุกชนิด

วีคัท ถือว่าเป็นขั้นตอนสำคัญของการขึ้นรูป และเริ่มต้นแปรรูปโลหะให้ได้ตามที่ต้องการ หรือเข้าสู่กระบวนการพับโลหะต่อไป โดยขั้นตอนนี้จะมีประโยชน์มากมาย แต่ข้อดีหลักสำคัญของการเริ่มต้นงานด้วยการวิธีนี้คือ การช่วยให้การพับง่ายขึ้น อย่างไรก็ตามถึงแม้ว่าจะมีประโยชน์พอสมควร แต่ในส่วนของข้อจำกัดก็ยังมีให้เห็นเช่นเดียวกัน

วีคัทคืออะไร มีความสำคัญอย่างไร

วีคัท หมายถึง กระบวนการไสร่องงานโลหะทุกชนิด หรือการขึ้นรูปโลหะต่าง ๆ ให้เป็นรูปตัว V หรือทำให้เกิดร่องภายในแผ่นโลหะ ก่อนเข้าสู่การพับ (Bending) เพื่อลดขอบคมของโลหะ ซึ่งเป็นผลดีต่อการพับและการขึ้นรูป โดยไม่เกิดปัญหาอื่น ๆ ตามมา อาทิเช่น การเกิดรอยระหว่างพับบนโลหะ ซึ่งถือว่าเป็นปัญหาสำคัญของการพับโดยตรง ดังนั้นขั้นตอนนี้อาจจะต้องใช้ความชำนาญไม่แพ้กับการพับหรือการขึ้นรูปโลหะแบบอื่น ๆ เช่นกัน

วิธีการทำวีคัทง่าย ๆ คือเริ่มและจบงานด้วยเครื่อง

การทำวีคัทหรือการดัดโลหะให้เป็นตัวตัววีเบื้องต้น ก่อนส่งเข้าสู่ขั้นตอนการพับจะมีเครื่องมือช่วยไสให้งานทำต่อง่ายมากขึ้น โดยปัจจุบันจะมีเครื่องมือสำหรับการไสโลหะให้เป็นตัววี (V Shape) 3 แบบด้วยกัน โดยแต่ละแบบจะให้รูปตัววีแตกต่างกันออกไป ขึ้นอยู่กับความต้องการของลูกค้าในการออกแบบชิ้นงานตามตกลง เครื่องมือสำหรับไสงานตัววีที่ใช้กันในหลัก ๆ มี 3 ประเภท ดังต่อไปนี้

• เครื่องไสร่องทางเดียว: เป็นเครื่องมือที่มีหลักการทำงานคือ จะสามารถไสร่องโลหะให้เป็นตัววีแค่ทางเดียว ไม่สามารถย้ำงานได้อีก นอกจากจะต้องวางแผ่นโลหะเข้าไปใหม่
• เครื่องไสร่อง 2 ทาง: เป็นเครื่องมือที่นิยมใช้กันสูงมาก เพราะสามารถย้ำงานให้มีความคม และได้รูปทรงที่ต้องการได้ในเวลารวดเร็ว เนื่องจากว่าสามารถย้ำ V Shape ได้ทั้งไปและกลับ
• เครื่องไสร่องแนวนอน: เป็นเครื่องไสที่เหมาะกับงานผลิตอัลลอยต่าง ๆ และเหล็กกล้า

ชิ้นงาน 5 ชนิดที่ได้จากการใช้ประโยชน์ด้วยงานวีคัท

ในส่วนของประโยชน์ที่จะได้จากการใช้วิธีการ V Cut มีหลายข้อด้วยกัน และแต่ละข้อจะช่วยเพิ่มผลงานให้น่าสนใจมากขึ้น รวมถึงทำให้งานที่ได้รับมอบหมายหรือรับมาจบลงไวขึ้นกว่าเดิม ซึ่งปัจจุบันเป็นหนึ่งในขั้นตอนการพับแผ่นโลหะทุกประเภทที่นิยมใช้กันเป็นวงกว้าง เพื่อทำให้ขอบของร่องงานแคบลง และเหมาะกับการนำไปขึ้นรูปต่าง ๆ ทั้งเหล็กกล้า, ทองเหลือง, เหล็ก, อะลูมิเนียม หรือวัสดุในกลุ่มโลหะอื่น ๆ เป็นต้น ยกตัวอย่างงานที่มักจะพบเห็นกันได้บ่อย ๆ จากงานวีคัทมีดังนี้

1. กรอบวงกบประตู-หน้าต่าง เมื่อพูดถึงงาน V Cut ที่มักจะเห็นได้ชัดได้บ่อยคือ วงกบประตู-หน้าต่าง โดยหากไม่มีการขึ้นหรือไสร่อง V ไว้ก่อน อาจจะทำให้ขั้นตอนเกิดปัญหาจากการพับผิดแบบ จนทำให้เสียเวลาแก้งานใหม่ หรือสุดท้ายไม่สามารถส่งงานได้ตามที่ตกลงระหว่างลูกค้าได้ ดังนั้นในอุตสาหกรรมเกี่ยวกับการงานส่วนนี้ ขั้นตอนการไสร่องวีจึงมีความสำคัญไม่แพ้ขั้นตอนการพับแต่อย่างใด
   
   
2. หลังคาบ้าน ต่อกันด้วยประโยชน์จากการเลือกไสร่อง V ด้วยเครื่องมือไสร่อง V (V Groover) ทุกรูปแบบ คือจะช่วยให้การขึ้นรูปงานมุมหลังคาเหล็กทุกแบบง่ายมากขึ้น รวมถึงทำให้งานจบไวขึ้นจากเดิมเช่นกัน เนื่องจากว่าปัจจุบันงานหลังคาแบบเมทัลชีทเริ่มเป็นที่นิยมมากขึ้น อีกทั้งการขึ้นรูปแม้มองเผิน ๆ อาจจะดูไม่ยาก แต่หากไม่มีการนำร่อง V ก่อน ผลลัพธ์ที่ได้อาจจะผิดพลาดทันที
   
   
3. รางน้ำ อีกหนึ่งงานที่เห็นกันบ่อย ๆ จากการขึ้นรูปหรือการพับโลหะ โดยงานรางน้ำจะมีการพับขอบโลหะแบบเล็กน้อย หากไม่มีการใช้ระบบงานวีคัท สิ่งที่จะตามมาคือปัญหาการขึ้นรูปผิดในขั้นตอนการพับโลหะ ซึ่งอาจจะมาพร้อมกับความเสียหายของแผ่นโลหะได้ง่าย ดังนั้นงานไสร่อง V มีความจำเป็นอย่างมาก
   
   
4. แท่งเหล็กสี่เหลี่ยม อีกหนึ่งงานที่จะต้องมีการนำร่องไสตัว V มาก่อน คือการทำแท่งเหล็กสี่เหลี่ยมทั้งแบบกลวงและแบบตัน ก่อนจะนำมาเชื่อมต่อกัน เพื่อให้เป็นเหล็กรูปทรงสี่เหลี่ยม ซึ่งงานนี้ค่อนข้างละเอียด เพราะจะต้องใช้การสังเกตมากเป็นพิเศษ มีขั้นตอนการไสร่องให้เป็นมุม V ก่อนเข้าสู่ขั้นตอนการพับขอบโลหะเพื่อลบคม รวมถึงให้ได้ขนาดตามที่ต้องการหรือตามใบสั่งงาน เพื่อรอขั้นตอนเชื่อมเหล็กให้เป็นแท่งเหล็ก 4 เหลี่ยมต่อไป
   
   
5. อุปกรณ์เครื่องใช้ภายในบ้าน อีกหนึ่งงานที่มักจะได้เจอกันบ่อย ๆ จากการไสร่องตัววีและการพับโลหะ คือการนำโลหะที่ได้มาใช้เพื่อทำอุปกรณ์เครื่องใช้ในครัวเรือน ไม่ว่าจะมาในรูปแบบของหม้อ ถาด หรือแม้แต่ช้อนต่าง ๆ เป็นต้น แต่ที่เห็นภาพได้ชัดมากที่สุดก็คือถาดอะลูมิเนียม เพราะมีการเข้ามุมเป็นตัว V ทั้ง 4 ทิศทาง จากนั้นจะมีการพับเก็บขอบเพิ่มความสวยงาม
   

การทำวีคัทโลหะ (V Cut Sheet Metal) มีประโยชน์หลากหลาย และทำให้งานต่าง ๆ จบง่ายมากขึ้น แต่ข้อจำกัดของการทำวีคัทคือ เป็นงานที่ต้องไม่รับน้ำหนักมาก ด้วยการทำ V Cut จะทำให้เนื้อโลหะสูญเสียไปบางส่วน แต่การตัดสินใจเลือกใช้วิธีการไสร่อง V ก่อนเข้าสู่ขั้นตอนการพับโลหะ จะช่วยให้งานที่รับมาจบไว และตรงสเปกลูกค้ามากขึ้น รวมถึงทำให้งานที่ได้เนี้ยบมากขึ้นกว่าเดิมทันที 

ติดต่อสอบถามรายละเอียดเพิ่มเติม หรือสั่งซื้อสินค้าได้ที่
บริษัท พี แอนด์ เอส สเตนเลสสตีลเซ็นเตอร์ จำกัด
Tel : 081-618-0778, 081-615-4296, 082-782-8654, 02-753-7753
Fax : 02-753-7770
Email : pands_stainless@yahoo.com
LINE : @psmetal
Facebook : @psstainlesssteel