การทำสีโลหะด้วยสีฝุ่นและสีน้ำมัน แตกต่างกันอย่างไร การทำสีโลหะด้วยสีฝุ่นและสีน้ำมัน แตกต่างกันอย่างไรข้อดีและข้อเสีย รวมถึงขั้นตอนการทำสีโลหะด้วยสีฝุ่นและสีน้ำมัน
ในการผลิตชิ้นส่วนของอุตสาหกรรมต่าง ๆ เช่น อุตสาหกรรมยานยนต์, อุตสาหกรรมเครื่องใช้ไฟฟ้า, อุตสาหกรรมเฟอร์นิเจอร์ หรืออุตสาหกรรมการผลิตเครื่องมือเครื่องใช้ต่าง ๆ รวมไปถึงการตกแต่งบ้านและอาคาร จะต้องมีการนำวัสดุมาทำสีโลหะหรือพ่นสีเคลือบวัสดุก่อนจะนำไปประกอบร่างทั้งสิ้น ซึ่งวัสดุที่ถูกนำมาทำสีโลหะนั้น มีทั้งอลูมิเนียมและเหล็ก โดยสีที่นิยมนำมาใช้ในการทำสีโลหะ มีอยู่ด้วยกัน 2 ชนิด คือ สีน้ำมันและสีฝุ่น (สี powder coat) การใช้สีน้ำมันและสีฝุ่นหรือสี powder coat มีข้อบ่งใช้และมีคุณสมบัติหลังการทำสีต่างกัน การจะเลือกใช้สีชนิดใดในการทำสีโลหะนั้น ก็ขึ้นอยู่กับประเภทของวัสดุและการนำชิ้นงานที่สำเร็จแล้วไปใช้ เช่น เป็นงานใช้ภายในหรือภายนอก เป็นงานที่ต้องการความโมเดิร์นหรือความหรูหราของชิ้นงาน เป็นงานที่ต้องการความทนทานมากหรือไม่ นอกจากนี้การจะเลือกใช้สีชนิดใด ยังขึ้นอยู่กับงบประมาณและความเชี่ยวชาญของช่างพ่นสีอีกด้วย
การทำสีโลหะด้วยสีน้ำมันสีน้ำมันเรียกอีกอย่างว่าสีเคลือบเงา เหมาะกับงานไม้และงานทำสีโลหะ เช่น เหล็ก เพราะทาแล้วจะทำให้ผิวหน้าของวัสดุมันเงา เรียบเนียน และสีติดทนนาน แต่งานสีน้ำมันจะต้องผสมตัวทำละลาย เช่น ทินเนอร์หรือน้ำมันสนลงไป เพื่อเจือจางสีให้มีความเข้มข้นน้อยลงก่อนใช้งานเสมอ ซึ่งการเจือจางสีน้ำมันจะช่วยทำให้ทาสีได้เรียบเนียนขึ้นและง่ายขึ้น สีน้ำมันมีให้เลือก 3 ชนิด ได้แก่ สีน้ำมันชนิดเงา, สีน้ำมันชนิดกึ่งเงา และสีน้ำมันชนิดด้าน โดยสีน้ำมันแต่ละชนิดก็มีคุณสมบัติที่เหมาะกับการใช้งานแตกต่างกัน ดังนี้
ข้อดีของการใช้สีน้ำมันในการทำสีโลหะเนื่องจากสีน้ำมันเป็นสีที่ลอกออกง่าย เพียงแค่ใช้น้ำยาลอกสีทาหรือพ่นลงบนชิ้นงานที่เคลือบด้วยสีน้ำมัน ตัวทำละลายที่อยู่ในน้ำยาลอกสี ก็จะทำให้สีน้ำมันหลุดลอกและพองตัวขึ้นมาจากพื้นผิวโลหะ แล้วจึงใช้เกรียงขูดสีน้ำมันออก ก่อนจะนำไปล้างทำความสะอาด อีกทั้งการทำสีด้วยสีน้ำมันยังไม่ต้องลงทุนในเรื่องของพื้นที่และอุปกรณ์มากเท่ากับสีฝุ่นอีกด้วย การเตรียมโลหะก็มีขั้นตอนที่น้อยกว่าสีฝุ่น แต่สีน้ำมันมีก็มีข้อเสียในการใช้งาน คือหากไม่ใช่สีน้ำมันสูตรน้ำ ก็จะต้องมีการใช้ทินเนอร์ผสม ซึ่งจะทำให้สีมีกลิ่นฉุน และเมื่อทาลงบนพื้นผิววัสดุแล้ว ก็อาจเกิดการสีย่นได้ หากขั้นตอนในการทาสีน้ำมันไม่ถูกต้อง เช่น ทาสีน้ำมันทับสีเก่าที่เสื่อมคุณภาพโดยไม่ขัดพื้นผิววัสดุก่อนทำสี, ทาสีชั้นที่สองทับสีชั้นแรกที่ยังไม่แห้งดี, ทาสีหนามากเกินไป, ตัวทำละลายหรือทินเนอร์ที่ใช้เจือจางสี แรงเกินไป หรือสีรองพื้นกับสีทาทับเป็นสีคนละชนิดกัน ซึ่งเรื่องเหล่านี้เป็นสิ่งที่สามารถหลีกเลี่ยงไม่ให้เกิดขึ้นได้ หากปฏิบัติตามขั้นตอนการทาสีอย่างถูกต้อง
ขั้นตอนการทำสีโลหะด้วยสีน้ำมันควรมีการทาสีรองพื้นกันสนิมก่อนลงสีทับหน้า เพื่อป้องกันไม่ให้ชิ้นงานเหล็กเป็นสนิม และต้องทาหรือพ่นสีทับหน้า 2 ครั้ง โดยเว้นระยะห่างกัน 6-8 ชั่วโมง เพื่อให้สีทับหน้าชั้นแรกแห้งสนิทดี เพื่อป้องกันปัญหาสีย่น ซึ่งขั้นตอนการทำสีโลหะด้วยสีน้ำมันมีดังนี้
การทำสีโลหะด้วยสีฝุ่นสีฝุ่น หรือ สี powder coat เป็นสีทำสีโลหะที่มีลักษณะเป็นผง ทำให้พื้นผิววัสดุมีความมันเงาและสวยงาม ซึ่งในการใช้งานจะต้องนำสีฝุ่นหรือ สี powder coat ไปใส่ในเครื่องพ่นสีฝุ่นที่มีประจุไฟฟ้า +/- และต้องแขวนวัสดุชิ้นงานไว้กับขั้วไฟฟ้า เพื่อให้สีฝุ่นที่พ่นลงไป สามารถเกาะติดอยู่บนพื้นผิวของเหล็กหรือโลหะชนิดอื่น ๆ ได้ หลัก ๆ นั้นสีฝุ่นหรือสี powder coat จะแบ่งออกเป็น 3 ประเภท ดังนี้
นอกจากนี้สีฝุ่นหรือสี powder coat ยังแบ่งตามลักษณะของผิวสีฝุ่นได้อีกด้วย ได้แก่
สีฝุ่นที่ถูกผลิตขึ้นมาให้มีผิวสัมผัสที่หลากหลายนั้น ก็เพื่อให้ตอบโจทย์ความต้องการของผู้ใช้งาน ที่ต้องการทำสีโลหะให้มีลักษณะของพื้นผิวที่แตกต่างกันไปตามการออกแบบและการใช้งานของชิ้นงานนั้น ๆ
การทำสีโลหะด้วยสีฝุ่นเหมาะกับงานชนิดใดบ้าง
การทำสีโลหะโดยใช้สีฝุ่นมีวิธีการใช้งานดังต่อไปนี้
การพ่นวัสดุด้วยสีฝุ่นหรือสี powder coat มีข้อดีแตกต่างจากการใช้สีน้ำมันอย่างไร
แต่ทั้งนี้การพ่นสีฝุ่นหรือ สี powder coat ในการทำสีโลหะ จะต้องพ่นโดยช่างผู้ชำนาญการเท่านั้น เพราะสีฝุ่นเป็นสีที่ลอกออกยาก ดังนั้นหากเกิดข้อผิดพลาดในการพ่นขึ้นมา เช่น พ่นสีฝุ่นไม่ทั่วถึงหรือพ่นสีฝุ่นได้ไม่สม่ำเสมอ ก็จะต้องลอกสีเดิมออกด้วยวิธีพ่นทราย ซึ่งเป็นวิธีการขัดผิวชิ้นงานโลหะโดยใช้เครื่องพ่นทรายที่มีแรงดันลมพ่นทรายเข้าใส่วัสดุที่ต้องการขัดผิว จากนั้นเม็ดทรายที่มีความคมจะช่วยขัดล้างพื้นผิวของวัสดุให้สีเก่าหลุดลออก แต่วิธีนี้เป็นวิธีที่อาจทำให้ชิ้นงานดูหยาบ และไม่เรียบเนียนอย่างที่ควรจะเป็น หาก็ทำความวัสดุชิ้นงานไม่สะอาดพอหลังการพ่นทราย และการพ่นสีฝุ่นยังมีข้อเสียคือ ลงทุนมาก ต้องทำบ่อเคมี ห้องพ่น ห้องอบ มีค่าบำรุงรักษาเยอะ และต้องเปลี่ยนเคมีในบ่อชุบตามอายุการใช้งาน บ่อชุบต้องใหญ่พอให้จุ่มชิ้นงานลงไปได้มิด หากคุณกำลังมองหาบริษัทที่มีความเชี่ยวชาญในการทำสีโลหะ ไม่ว่าจะเป็นทำสีเหล็กหรือทำสีสแตนเลส พี แอนด์เอส สแตนเลสสตีล เซ็นเตอร์ ก็พร้อมให้บริการโดยช่างพ่นสีผู่ชำนาญการ และยังมีบริการที่ครบจบในที่เดียว เพราะนอกจากการทำสีโลหะแล้ว พี แอนด์ เอส ยังมีบริการตัดโลหะ ขึ้นรูปโลหะ ตัดพับโลหะ วีคัท และเชื่อมโลหะอีกด้วย เพียงมาใช้บริการที่เรา คุณจะไม่ต้องเสียเวลาติดต่อและขนย้ายชิ้นงานไปหลายที่ให้วุ่นวาย อีกทั้งยังเป็นการช่วยประหยัดงบประมาณของคุณอีกด้วย ติดต่อสอบถามรายละเอียดเพิ่มเติม หรือสั่งซื้อสินค้าได้ที่ |