เทคนิควิธีการแก้ไขรอยต่อเหล็กในงานโครงสร้าง
เพราะในงานโครงสร้างเหล็ก ไม่ว่าจะเป็นงานเฟอร์นิเจอร์, ชิ้นส่วนเครื่องจักรอุตสาหกรรม ตู้หรือคอนโทรล ฯลฯ ซึ่งโดยทั่วไปแล้วการประกอบชิ้นงานแต่ละชิ้นจะมีวัสดุมาตราฐาน ก็คือ 4x8 และ 5x10 ฟุต ซึ่งถ้าชิ้นงานของคุณมีขนาดที่ใหญ่กว่าแผ่นเหล็กมาตราฐานและไม่ต้องการรอยต่อเลย ก็จะมีวิธีการที่สามารถทำได้ เช่น การหา Material ขนาดพิเศษ ซึ่งค่าใช้จ่ายในการทำค่อนข้างสูง เนื่องจากมีค่าใช้จ่ายในกระบวนการหลายขั้นตอนที่ยากปกติ เช่น การขนย้าย, การทำงานของเครื่องจักรที่ทำงานยากมากขึ้นเพราะชิ้นงานมีขนาดใหญ่ หรือสรรพกำลังของช่างเทคนิคต่างๆ ในการดูและประกอบชิ้นงาน นั่นเอง ซึ่งวิธีการที่สามารถทำได้ก็คือ การเชื่อมโดยใช้ Joint รูปแบบต่างๆ ในการต่อขนาดชิ้นงานให้ได้ขนาดและรูปทรงที่ลูกค้าต้องการ แต่วิธีการนี้ สิ่งหนึ่งที่คุณหลีกเลี่ยงแทบไม่ได้เลยก็คือ “รอยต่อจากการเชื่อมเหล็ก” ถ้าหากลูกค้าไม่ต้องการให้ชิ้นงานมีรอยต่อที่ดูไม่สวยงาม ก็ต้องเพิ่มกระบวนการเก็บรอยต่อ เช่น การพับไปหลบไม่ให้เห็นหัวน็อตบ้าง, หรือเก็บรอยต่อไม่ให้อยู่ในระดับสายตา ฯลฯ ซึ่งนั่นก็จะเป็นการเพิ่มค่าใช้จ่ายในการทำงานด้วย
นอกจากนั้น ปัจจัยในการพิจารณาเลือก วิธีแก้ไขรอยต่อ ที่สำคัญก็คือพื้นที่ในการเก็บชิ้นงานของลูกค้า ซึ่งในกรณีที่ชิ้นงานของลูกค้ามีขนาดใหญ่กว่าลิฟท์ขนย้าย ซึ่งทีมงานของ P&S Stainless Steel Center ไม่สามารถยกชิ้นงานกลับมาทำเองได้ ก็จะมีวิธีการให้เลือกใช้ได้คือ “การใช้สีโป๊ว”
- วิธีแก้ไขรอยต่อ ด้วยการใช้สีโป๊ว
ผิวงานของชิ้นงานต่างๆ ไม่ว่าจะเป็นจากรอยต่อ ชนอย่างการ Butt Joint และบางครั้งชิ้นงานจะอาจจะเกิดการบุบยุบ พองหรือฉีกขาดได้ ซึ่งยากมากต่อการคาดคะเนในสิ่งที่จะเกิดได้ โดยขั้นตอนก่อนที่จะทำการโป๊วสีเพื่อแก้ไขรอยต่อนี้ จะต้องเคาะให้รอยพองยุบนั้นเข้ารูปเดิมเสียก่อน หรือหากฉีกขาดจะต้องเชื่อมประสานกันให้เรียบร้อยก่อน แล้วจึงขัดด้วยเครื่องขัดให้สีเดิมหลุดออกและขัดบริเวณที่นูนขึ้นมาให้เรียบที่สุดเท่าที่จะทำได้ จากนั้นจึงเป็นขั้นตอนของการลงสี เพื่ออุดพอกหรือเสริมให้ส่วนของรอยต่อนั้นราบเรียบมากยิ่งขึ้น
การแก้ไขรอยต่อจากการเชื่อมเหล็ก ด้วยการโป๊วสีนั้น สำหรับที่ P&S Stainless Steel Center จะส่งทีมงานเข้าไปยังที่พื้นที่หน้างานของลูกค้า เพื่อประเมินความยากง่ายของการเก็บรอยต่อ ขนาดชิ้นงาน ขนิดพื้นที่หน้างาน อีกทั้งสีที่นำมาแก้ไขรอยต่อก็จะต้องเลือกใช้สีที่ไม่ต้องอบ นอกจากนั้นการเลือกให้เหมือนกับสีเดิมมากที่สุดก็จะเพิ่มความยากในการแก้ไขรอยต่อ ซึ่งแน่นอนว่าทั้งหมดนี้ก็จะมีค่าใช้จ่ายค่อนข้างสูงเพราะมีความซับซ้อนในการปฏิบัติงานนั่นเอง
ประเภทของสีโป๊วนั้น สามารถแบ่งได้หลายประเภทตามลักษณะการใช้งาน ซึ่งส่วนประกอบโดยทั่วไปจะประกอบด้วยผงสีที่มีเนื้อหยาบแต่ขัดง่าย ซึ่งในงานซ่อมรอยต่อจากการเชื่อมเหล็ก จะนิยมใช้สีพลาสติกในการพอกเสริมเพื่อซ่อนรอยบุบ ซึ่งสีโป๊วพลาสติกจะต้องผสมกับตัวทาแข็งเพื่อช่วยให้สีแข็งตัวและแห้งได้ไวขึ้น ซึ่งข้อดีของการใช้สีพลาสติกก็คือ ใช้ตกแต่งรอยต่อได้เรียบ ใช้งานง่าย สะดวกและแห้งเร็ว ส่วนข้อเสียก็คือ หากผสมตัวทาแข็งไม่ทั่ว หรือถ้าโป๊วหนาเกินไปจนทำให้สีแห้งไม่ดี ก็จะทำให้บริเวณที่โป๊วสีเกิดการพองตัว แตกกระเทาะได้ง่าย
นอกจากนั้นวิธีแก้ไขรอยต่อด้วยการโป๊วสีนั้น มักจะมีข้อจำกัดในการทำงานเนื่องจากบางครั้งเราต้องส่งทีมช่างเข้าไปหน้างาน เพราะมีปัญหาเรื่องการขนย้ายชิ้นงาน ซึ่งบางครั้งถ้าหน้างานเป็นตึกสูงการขนย้ายงานต้องใช้ลิฟท์ หากขนาดของลิฟท์ใหญ่ไม่มากพอ การทำงานก็จะมีแค่วิธีส่งช่างเข้าไปโป๊วสีและพ่นสีเพื่อทำแก้ไขรอยต่อที่หน้างานของลูกค้านั่นเอง
- วิธีแก้ไขรอยต่อด้วยการเชื่อมเหล็ก
เป็นวิธีการที่มีหลายรูปแบบให้เลือกใช้งาน และโดยทั่วไปช่างต่างๆ ก็มักจะใช้วิธีการนี้ แต่การเก็บรอยต่อด้วยวิธีการนี้ก็จะไม่ค่อยสวยงาม เพราะการเชื่อมนั้นเป็นวิธีการที่ใช้ความร้อนในการเชื่อมต่อโลหะ ซึ่งจะทำให้บริเวณที่เชื่อมนั้นเกิดการพองตัวหรือยุบตัว โดยที่ช่างที่คาดคะเนได้เลยว่าชิ้นงานนั้นจะเกิดการยุบหรือพองตัวซึ่งประเภทของการเชื่อมที่ P&S Stainless Steel Center ทำได้นั้น มีอยู่ 4 ประเภทคือ
- การเชื่อม TIG, MIG และ ARC บน 3D Welding Table : เพื่อให้ได้ชิ้นงานที่แข็งแรงสวยงามและเที่ยงตรง อีกทั้งรอยต่อที่ได้จากการเชื่อม ด้วยเครื่อง 3D Welding Table ยังมีความสวยงามกว่าวิธีการเชื่อมแบบดั้งเดิม
- การเชื่อมด้วยหุ่นยนต์ : คือกระบวนการหนึ่งของการเชื่อมวัสดุ ที่สามารถลดขั้นตอนการเก็บงานตรงรอยเชื่อมได้ เนื่องจากรอยเชื่อมที่ได้จากหุ่นยนต์จะเป็นรอยเชื่อมที่เล็ก นอกจากนั้นวิธีการนี้จะช่วยลดเวลาและลดต้นทุนได้ ซึ่งมีประโยชน์มากสำหรับการผลิตแบบจำนวนมาก (Mass Production)
- การเชื่อมด้วยเลเซอร์ 3D VZ20 : เหมาะสำหรับงานที่ต้องการความแม่นยำสูง โดยการเชื่อมด้วยวิธีนี้ก็จะได้รอยต่อที่สวยงามอีกด้วย
- การเชื่อมแบบจ่อจุด (Spot Welding) : ซึ่งเป็นการเชื่อมโดยการนำโลหะ 2 แผ่นมาวางซ้อนกัน แล้วใช้กระแสไฟฟ้าในการทำให้โลหะหลอมติดกัน ใช้ได้กับชิ้นงานที่มีความหนาไม่เกิน 3 mm
อย่างที่เราได้กล่าวไปแล้วในข้างต้นว่า การเชื่อมนั้นสิ่งที่หลีกเลี่ยงไม่ได้เลยนั่นก็คือ รอยต่อ ไม่ว่าช่างเชื่อมจะมีฝีมือและทักษะมากขนาดไหน รอยต่อก็ยังคงมีปรากฏในงานอยู่ดี ซึ่งหากต้องการให้เก็บรอยต่อให้เนียนสวยมากที่สุด โดยวิธีแก้ไขรอยต่อด้วยการเชื่อมนี้ อาจจะต้องเพิ่มกระบวนการและขั้นตอนบางอย่าง เพื่อความเรียบเนียนและสวยงามของชิ้นงาน เช่น การยิง Butt เพื่อเป็นการหลบรอยต่อ, การพับหรือการพ่นสี เป็นต้น ในบางกรณีที่เป็นชิ้นที่งานที่ขนาดใหญ่ การเชื่อมแบบ Butt Joint ซึ่งก็คือรอยต่อที่นำขอบโลหะ 2 ชิ้นมาประกบชนกัน โดยผิวของชิ้นงานอยู่ในระนาบเดียวกัน ซึ่งหลายครั้งอาจจะเกิดรอยขอบที่เผยอออกมา ซึ่งก็จะดูไม่ค่อยเรียบร้อย ฉะนั้นการเก็บรอยต่อให้ดูสวยงามก็จะต้องมีการพับเพิ่มเข้ามา เพื่อให้เป็นสันขึ้นมาพอเราทำการเชื่อมเพื่อเก็บรอยต่อมันก็จะช่วยให้ชิ้นงานเรียบร้อยมากขึ้นนั่นเอง กระบวนการหรือขั้นตอนที่เพิ่มเข้ามาในการแก้ไขรอยต่อจากการเชื่อมเหล็ก ดังที่เราได้กล่าวนี้ แน่นอนว่าจะต้องมีค่าใช้จ่ายที่เพิ่มเข้ามามากขึ้น
ซึ่งตามหลักการของการประเมินค่าใช้จ่ายของ P&S Stainless Steel Center เบื้องต้น ดังนี้
- ค่าวัสดุหรือ Material
- ขนาดของชิ้นงาน
- ค่าใช้จ่ายในกระบวนการต่างๆ อาทิ การพับ, การพ่น, การขัดเจียร หรือการถอดชิ้นส่วนงาน (ในกรณีที่ชิ้นงานขนาดใหญ่ แต่สามารถถอดชิ้นส่วน
- เพื่อทำการเก็บรอยต่อบริเวณที่ต้องการได้)
- ความยากง่ายในการแก้ไขรอยต่อ
- การทำสี (คิดเป็นตารางเมตรของพื้นที่)
- การเชื่อม (คิดเป็นตามความยาวของแนวเชื่อม)
- ประเภทของสีที่ใช้
อย่างไรก็ตาม งานโครงสร้างเหล็กของ P&S Stainless Steel Center ที่บางครั้งเป็นงานแบบ Custom Made ที่บางครั้งลูกค้าต้องการชิ้นงานที่มีความละเอียดประณีตมากที่สุด ซึ่งลูกค้าประเภทนี้ก็จะเลือกมาใช้บริการที่ P&S Stainless Steel Center เพราะว่าเรามีช่างเทคนิคที่มีประสบการณ์และชำนาญงาน ที่จะประเมินชิ้นงานของลูกค้าและสามารถชี้แจงรายละเอียดขั้นตอนต่างๆ ในการทำ ปัญหาที่อาจจะเกิดขึ้นและทางเลือกเพื่อเป็นการลดต้นทุนในการผลิตชิ้นงานได้ตั้งแต่ก่อนจะเริ่มงาน อีกทั้งยังมีเทคโนโลยี เครื่องจักรที่ทันสมัยทั้งในการผลิต การแก้ไขรอยต่อจากการเชื่อมเหล็ก ฯลฯ พ่นสีโลหะ, พับ, ตัดและม้วน หลากหลายวิธี เพื่อสร้างสรรค์งานที่ดีที่สุดให้คุณ และตอบโจทย์ความต้องการของลูกค้าให้ได้มากที่สุด
ติดต่อสอบถามรายละเอียดเพิ่มเติม หรือสั่งซื้อสินค้าได้ที่
บริษัท พี แอนด์ เอส สเตนเลสสตีลเซ็นเตอร์ จำกัด
Tel : 081-618-0778, 081-615-4296, 082-782-8654, 02-753-7753
Fax : 02-753-7770
Email : pands_stainless@yahoo.com
LINE : @psmetal
Facebook : @psstainlesssteel