เคยสงสัยไหมครับว่า งานที่เรากำลังจะทำอยู่นี้ ควรจะใช้สเตนเลสเกรดไหนดีจึงจะเหมาะสม ฉบับนี้ เรามาดูปัจจัยที่เกี่ยวข้องกันครับ

       ในการเลือกเกรดสเตนเลสที่จะนำมาใช้นั้น ลองดูคำถามเหล่านี้เป็นแนวทางครับ

1. สภาวะการกัดกร่อนเป็นอย่างไร?  - บรรยากาศ, น้ำ, ความเข้นข้นของเคมี, ส่วนผสมคลอไรด์, สภาพกรด

2. อุณหภูมิที่ใช้งานเป็นอย่างไร? – สภาวะที่มีอุณหภูมิสูงจะเร่งกระบวนการกัดกร่อนให้เกิดเร็วขึ้น ฉะนั้น จึงควรใช้เกรดที่สูงขึ้น ในขณะที่ สภาวะที่อุณหภูมิต่ำควรจะใช้สเตนเลสกลุ่มออสเตนิสติก

3. ความแข็งแรงที่ต้องการเป็นอย่างไร? – สเตนเลสกลุ่มที่มีความแข็งแรงกว่า คือ กลุ่มออสเทนิสติก, ดูเพล็กซ์, มาร์เทนซิติก และ กลุ่ม PH (Precipitation Hardening – กลุ่มชนิดเพิ่มความแข็งโดยการตกผลึก) และควรคำนึงถึงกระบวนการที่เราจะนำสเตนเลสไปใช้ผลิตด้วย เพราะอาจจะส่งผลต่อคุณสมบัติ เช่น กลุ่มออสเตนิสติกที่มีความแข็งแรงสูงจากการชุบแข็ง (Hardening) หากผ่านกระบวนการเชื่อมจะส่งผลให้ความแข็งลดน้อยลง

4. ลักษณะการเชื่อมเป็นอย่างไร? – กลุ่มออสเทนิติกจะเชื่อมได้ดีกว่ากลุ่มอื่น กลุ่มเฟอร์ริติกจะเหมาะกับงานเชื่อมบางๆ กลุ่มดูเพล็กซ์อาจต้องการความพิถีพิถันมากกว่ากลุ่มออสเตนิติก แต่ก็สามารถเชื่อมได้ดีเช่นกัน กลุ่มมาร์เทนซิติกและกลุ่ม PH จะเชื่อมได้ยากกว่ากลุ่มอื่นๆ

5.  ลักษณะการขึ้นรูปเป็นอย่างไร? – กลุ่มออสเทนิติกจะสามารถขึ้นรูปได้ยืดหยุ่นกว่ากลุ่มอื่นๆ ทำให้สร้างงานได้หลากหลายกว่า โดยทั่วไปแล้วกลุ่มเฟอร์ริติกจะไม่สามารถขึ้นรูปได้ดีเท่า แต่ก็สามารถขึ้นรูปได้ซับซ้อนพอสมควร กลุ่มดูเพล็กซ์, มาร์เทนซิติกและ PH ค่อนข้างขึ้นรูปได้จำกัด

6. รูปพรรณที่ต้องการใช้เป็นอย่างไร? – ไม่ใช่ทุกเกรดที่จะหาสเตนเลสรูปพรรณได้ทุกรูปแบบ (แผ่น, เพลา, ฉาก, ท่อ) และขนาดในตลาด กลุ่มออสเทนิติกจะหาได้ทุกรูปแบบทุกขนาด กลุ่มเฟอร์ริติกมักจะเป็นรูปแบบแผ่นมากกว่าเพลา กลุ่มมาร์เทซิติกมักจะเป็นเพลา มากกว่าแผ่น

7. คุณสมบัติในการดูดแม่เหล็ก – บางครั้งลูกค้าอาจจะมีความต้องการพิเศษ เช่น ต้องการคุณสมบัติที่แม่เหล็กดูดไม่ติด

8. ผิวสเตนเลส – เป็นปัจจัยที่จำเป็นในหลายลักษณะงาน

9. หาซื้อได้ทั่วไป – อาจจะมีเกรดที่เหมาะสมที่สุดกับงานของเรา แต่ไม่สามารถหาได้ภายในเวลาที่กำหนด

10. ราคา – ในการพิจารณาเรื่องราคาสำหรับเกรดที่เหมาะสมนั้น ควรคำนึงถึงค่าใช้จ่ายตลอดอายุการใช้งาน มิใช่เพียงมูลค่าเริ่มต้น หากเลือกเกรดที่เหมาะสมทำให้เราสามารถประหยัดค่าใช้จ่ายในส่วนนี้ได้

               ในบ้านเราเองนั้น มักจะใช้เกรด 304 เป็นหลัก ซึ่งในบางครั้งก็อาจจะใช้เกรดที่ถูกกว่าแทนได้ โดยคำนึงถึงสภาวะและลักษณะงาน แต่ที่สำคัญคือ ต้องมีความซื่อสัตย์กับลูกค้า หากใช้เกรดที่ราคาถูกกว่าก็ต้องบอกลูกค้าไปตามความจริงและคิดราคาที่เหมาะสม การปิดบังความจริงนั้น นอกจากจะส่งผลโดยตรงกับงานที่ลูกค้าได้รับและชื่อเสียงของตัวเองในระยะยาวแล้ว ยังส่งผลต่อวงการสเตนเลสโดยรวม เพราะทำให้คนอื่นทำงานลำบากครับ